เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๙
กราบลาอย่างสุดแสนเสียดาย ลงมาถึงชั้นล่างที่มีข้าวของวางระเกะระกะ ฝุ่นจับเขรอะไปหมดทุกชิ้น ครั้งแรกอาตมาก็ไม่ได้สนใจเท่าไร แต่เมื่อตั้งใจดูเข้าชิ้นหนึ่ง เห็นคำบรรยายที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวจิ๋วเข้า เฮ้ยเว้ย..! นี่มันเครื่องราชูปโภคของพระมหากษัตริย์ และพระราชินีทั้งนั้นเลยนี่หว่า..!
เจ้าประคุณเอ๋ย...คนพม่าเขาเป็นลิงได้แก้ว หรือว่าเข้าถึงธรรมจนปล่อยวางได้กันแน่..? กระทั่งฉากกั้นท้องพระโรง ฝีมือช่างละเอียดยิบ สวยจนบอกไม่ถูก ประเมินคุณค่าและราคาไม่ได้ ถูกตั้งให้ฝุ่นจับและแมงมุมทำรังเฉยเลย ตูเห็นแล้วจะบ้าตาย..!
สังขารหลวงปู่สุริยะ อยู่ในมณฑปเยื้องไปด้านหลังอาคารตั้งพระพุทธรูปทองคำ
กลับออกมาด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก โซยุนท์พาขึ้นตึกโทรม ๆ อีกหลังหนึ่ง โอ๊ย...โคตรเพชรยอดมงกุฎอีกแล้ว..! สังขารของหลวงปู่อูสุริยะ ผู้สร้างพระมหาเจดีย์และวัดนี้นี่เอง บรรจุอยู่ในบุษบกแกะสลักอย่างงดงาม ท่านมรณภาพมา ๓๒ ปีแล้ว..!
หลวงปู่ท่านเกิดแรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๐ จ.ศ. ๑๒๗๗ มรณภาพ จ.ศ. ๑๓๒๙ อายุได้ ๕๒ ปีเท่านั้น แต่ฝากผลงานมโหฬารและสังขารศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ให้กราบไหว้บูชา ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ขอลูกทั้งหลายเป็นผู้มีส่วนรู้เห็นธรรมนั้นในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2016 เมื่อ 02:26
|