พระอาจารย์กล่าวว่า "ด้วยวิสัยเก่าของตัวเองยังมีอยู่มาก ทั้งที่ยังไม่ได้ไปยินดียินร้ายกับสภาพของการแข่งขันทางการเมือง แต่จากการที่เคยทำหน้าที่เป็นทหารรักษาบ้านรักษาเมืองมา จึงมีความรู้สึกว่าอยากได้นักการเมืองที่ทุ่มเทให้กับประเทศชาติด้วย ก็เลยพลอยมานั่งลุ้นผลการเลือกตั้งกับเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย
ทั้งนี้เกิดจากสาเหตุสองประการ ประการแรก บ้านเมืองเราล้าหลังมานานแล้ว เขาทำร้ายทำลายบ้านเมืองมามากแล้ว ประการที่สองก็คือ เป็นห่วงและสงสารในหลวง คนแก่อายุตั้ง ๗ รอบไปแล้ว ถ้าลูก ๆ ยังทะเลาะกันไม่เลิก พระองค์ท่านก็คงไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ ถึงได้บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเด็ดขาดไปข้างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะวุ่นวายไม่รู้จบ ที่สำคัญที่สุดก็คือพลังเงียบ โปรดอย่าได้เงียบ ถ้าเงียบเมื่อไรแปลว่าเราต้องยอมให้ประเทศชาติลุ่ม ๆ ดอน ๆ กันต่อไป
ตอนนี้รอบข้างประเทศของเรายกเว้นพม่า ความเจริญจะแซงหน้าเราไปหมดแล้ว แม้แต่พม่าก็อุตส่าห์พยายามสร้างนิวเคลียร์ ตกลงว่าประเทศไทยเราจะล้าหลังกว่าทุกประเทศแล้ว
ประเทศเวียดนามมีกลุ่มบุคคลระดับหัวกะทิที่จบปริญญาเอกมาประมาณหนึ่งพันห้าร้อยกว่าคน ช่วยกันคิดวางแผนพัฒนาประเทศ มีการปรับปรุงข้อมูลอยู่ทุกวัน เขาถึงได้เจริญก้าวหน้า แต่กรรมเก่าเขายังหนักอยู่ ประเทศกำลังก้าวหน้าอยู่ดี ๆ ก็มักเกิดภัยธรรมชาติหนัก ๆ ทุกที
ถ้าบ้านเมืองเขาไม่มีภัยธรรมชาติหนัก ๆ แบบของเรา เขาจะเจริญก้าวหน้าไปกว่านั้นอีกมาก ตอนนี้ข้าวของทุกอย่างของเวียดนามตีตลาดแทนไทยเกือบหมดแล้ว แม้กระทั่งข้าวที่เราส่งออกเป็นอันดับหนึ่งอยู่ตลอด จะเสียอันดับให้แก่เวียดนามเมื่อไรก็ไม่รู้ ?
เวลาเรากินถั่วลิสงจะเห็นว่าฝักใหญ่กว่าปกติ นั่นถั่วเวียดนามทั้งนั้น จากการที่เราเปิดเขตการค้าเสรี ทำให้เขาส่งเข้ามาได้ทุกทิศทุกทาง ลาวกับเขมรมีโทรศัพท์ 3g ใช้นานแล้วนะ ของประเทศไทยเรายังแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวเลย ขายหน้าเขาบ้างไหม ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 29-07-2011 เมื่อ 18:06
|