พระอาจารย์กล่าวถึงแพลงกิ้งว่า "จริง ๆ แพลงกิ้ง (planking) เป็นการเลียนแบบสัตว์ สัตว์หลายชนิดเวลาอันตรายจวนตัว ก็จะแกล้งตายแข็งทื่อ พอศัตรูมาดม ๆ เขี่ย ๆ หน่อย เห็นว่าตายแล้วก็ปล่อยไป โดยเฉพาะพวกงูนี่ชอบมากเลยประเภทที่ทำเป็นตาย
ที่วัดท่าขนุนมีอยู่ช่วงหนึ่ง ประมาณสัก ๔ โมงเย็น ‘แหลมทอง ๐๕๒’ เป็นนามเรียกขานของลูกข่ายมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ที่อาตมาเป็นหัวหน้าอยู่ เขาวิทยุมาว่า “อาจารย์..ใครเอางูมาทิ้งไว้ทางออกป่าช้าตัวเบ้อเร่อเลย ผมเกือบจะทับมันแน่ะ” อาตมาก็ถามว่าอยู่ตรงไหน ? เขาบอกว่าอยู่เกือบถึงปากทางออก อาตมาก็ตอบไปว่าจะไปดูให้
พอเดินไปจนเกือบทะลุถนนใหญ่ ปรากฏว่าไม่มี ก็เลยวิทยุไปบอกว่า "โชคดีที่เอ็งไม่ลงไปดู เอ็งขี่มอเตอร์ไซค์มา งูมันหนีไม่ทันก็ทำเป็นตายนอนแข็งทื่อ แล้วไอ้ตัวใหญ่ ๆ ขนาดนั้นแถวนี้มีแต่จงอาง..!"
เพราะฉะนั้น..คนที่ทำแพลงกิ้งขอให้รู้ว่า ย้อนหลังไปสมัยไดโนเสาร์นั่นเลย เพราะเลียนแบบสัตว์ สัตว์บางชนิดนี่เรายิ่งเขี่ย ๆ ก็ยิ่งนอนแผ่ทำเป็นว่าตายไม่รู้ไม่ชี้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2011 เมื่อ 11:51
|