จักทำอะไรก็ตาม ให้คิดว่าจักทำเพื่อพระนิพพานจุดเดียว
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้
๑) “จักทำอะไรก็ตามให้คิดถึงว่า จักทำเพื่อพระนิพพาน เพราะ
ฉะนั้นกาย วาจา ใจ จักทำอะไรลงไป ให้ตรวจสอบดูว่า ใช่ทำเพื่อพระนิพพานหรือไม่”
๒) “การคิด การพูด การกระทำนั้น เป็นโลกียวิสัย หรือเป็นโลกุตรวิสัย จักต้องตรวจสอบกรรมของตนเองเอาไว้อยู่เสมอ ว่าการกระทำนั้นเป็นไปเพื่อโลกุตระหรือโลกียวิสัย จุดนี้จักต้องกำหนดรู้ด้วย อย่าทำลืม..จุดนี้มีความสำคัญมาก”
๓) “
ตรวจสอบดูการกระทำของกาย วาจา ใจ เป็นที่ขัดต่อศีล สมาธิ ปัญญาหรือไม่ หากกำหนดรู้อยู่เนืองนิตย์ จิตก็จักไม่มีความประมาท ความเผลอในศีล สมาธิ ปัญญาก็จักลดน้อยลง”
๔) “
ให้ระวังจนถึงที่สุดด้วยการตรวจสอบกรรม คือ การกระทำของกาย วาจา ใจ ในที่สุดก็ถึงจุดวิมุตติได้ อันเป็นจุดหมายปลายทางของพระนิพพานที่มุ่งหวังไว้”
(หากทุกครั้งที่เราทำกรรมดี แล้วใช้อธิษฐานบารมีให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ เราขอทำความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพานจุดเดียว หากทำจนจิตชินในอธิษฐานบารมีเช่นนี้แล้ว บารมีข้อนี้ก็เต็มได้ มีผลทำให้บารมีอีก ๙ ข้อเต็มตาม จึงเสมือนหนึ่งการตัดอวิชชาหรือสังโยชน์ข้อที่ ๑๐ เลย คือ อุปสมานุสตินั่นเอง)
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com