พระกุมารกัสสปะกล่าวว่า "ก็เช่นกัน มหาบพิตร..บุคคลพอลงไปรับโทษหนักอยู่ในนรก นายนิรยบาลเขาไม่ยอมปล่อยมา ญาติที่ไหนจะมาบอกกับท่านได้"พระเจ้าปายาสิจึงกล่าวว่า "แล้วพวกที่ไปสวรรค์เล่า ? ญาติมิตรสาโลหิตของข้าพเจ้าที่มีอยู่ พอถึงเวลาใกล้ตาย ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านทั้งหลายทำความดีไว้มาก ถึงเวลาต้องไปสุคติโลกสวรรค์แน่นอน ข้าพเจ้าก็ไปแจ้งแก่พวกนั้นว่า ถ้าไปสวรรค์แล้วให้กลับมาบอกด้วย ก็ไม่เห็นมีใครมาสักคน แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าตายแล้วไม่สูญ ?"
พระกุมารกัสสปะบอกว่า "ดูก่อน..มหาบพิตร..อันบุรุษที่ตกลงไปในหลุมคูถ(ขี้) เมื่อพระองค์ท่านให้ราชบุรุษนำขึ้นมา ใช้ซี่ไม้ไผ่ครูดอุจจาระจนสะอาด ให้อาบน้ำ ลูบไล้ด้วยของหอมเครื่องย้อมเครื่องทา ให้นุ่งผ้าอันสวยงามพร้อมกับสวมพวงมาลัยดอกไม้ แล้วจะให้เขากระโดดลงไปในบ่ออุจจาระอีก จะเป็นไปได้หรือไม่ ?"
พระเจ้าปายาสิบอกว่า "ไม่มีใครเขาทำอย่างนั้นแน่" พระกุมารกัสสปะบอกว่า "ก็เช่นเดียวกัน..มหาบพิตร กลิ่นมนุษย์เหม็นไปไกลเป็นโยชน์ เทวดาที่ไหนอยากจะเข้าใกล้ แล้วผู้ใดจะมาบอกกับท่านได้เล่า"
ลองไปอ่านดูนะ สนุกมาก ท่านเปรียบเทียบแต่ละอย่างชัดเจนมาก เหมือนกับหงายของที่คว่ำ เหมือนกับตามประทีปในที่มืด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2011 เมื่อ 02:42
|