พระอาจารย์กล่าวว่า "คนที่ไม่เคยนอนเมรุ ไม่รู้หรอกว่าเมรุน่านอนแค่ไหน อาตมาไปวัดโพธิ์เมืองปัก ของหลวงพี่มหาถวัลย์ วัดนี้เป็นวัดเล็ก ๆ เวลาที่วัดจัดงานนี่เสียงดังกลบไปทั้งวัด อาตมาทนรำคาญไม่ไหว อยู่บนศาลานอนไม่ได้แน่ จึงลงไปเดินหามุมเงียบ ๆ
เดินไปเจอบ้านผีที่เขาทำเป็นช่อง ๆ สำหรับเสียบโลงได้โลงหนึ่ง แล้วซ้อนขึ้นไปเป็นชั้น ๆ อาตมาเห็นว่าว่างก็มุดเข้าไป เอาหัวเข้าไปได้ก็ปลอดภัยแล้ว อย่างน้อย ๆ เสียงเข้าไปได้ช่องเดียวก็ไม่ดังมาก แย่งที่ผีนอนก็แย่งมาแล้ว เรื่องอื่นเรื่องเล็ก..!
แต่ที่ไปแม่สานนั่นไม่ได้เจตนานะ ไม่รู้จริง ๆ เห็นเนินลาด ๆ ประมาณ ๖๐ องศา ต้นไม้ขึ้น ๒ ข้าง ก็คิดว่าสบายแล้ว ผูกเชือกแขวนกลดได้พอดี จัดการเสร็จสรรพเรียบร้อยก็สรงน้ำสรงท่า พอถึงเวลาเข้ากลดเอนตัวลงจะนอน เห็นผีโผล่มาตรงปลายเท้า ๖ ตัว แต่เทวดาที่มาทางหัวนี่ เฉพาะที่นำหน้า ๑๒ องค์ ที่ตามมาอีกเป็นกองทัพ ผีก็เลยต้องเผ่นแทน..!
อาตมาก็สงสัยว่าอะไรวะ อยู่ ๆ มาหลอกกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร ภาวนาของตัวเองไป พอรุ่งเช้าเก็บกลดเสร็จ สะพายบาตรเข้าไปที่วัด เณรเกียงดาถามว่าเมื่อคืนนอนที่ไหนครับ ? อาตมาก็ชี้ให้เขาดู เณรทำหน้าพิกล บอกว่า "นอนเข้าไปได้อย่างไร นั่นป่าช้า..!" อ้าว..ก็เอ็งไม่บอกนี่หว่า จึงกลับไปพิจารณาใหม่ ไอ้เนินลาด ๆ นั่นที่แท้ก็หลุมศพ มิน่า..เขาหวงหลุมถึงจะมาเล่นงานเอา..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2011 เมื่อ 12:37
|