ถาม : มีพระเครื่องอยู่องค์หนึ่งหายไป ก็เลยใช้คาถาที่ท่านบอก แต่ยังไม่ได้คืน..?
ตอบ : ยังไม่ได้คืนแสดงว่าสมาธิไม่ดีพอ อาตมาเองมีพระเนื้อเมฆสิทธิ์ปางซ่อนหาของหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม หล่นหายตอนตัดกิ่งไม้ ตัดอยู่เป็นสิบ ๆ ต้นจึงไม่รู้ว่าหล่นหายที่ไหน
ปกติถ้าหากว่าอาตมาลืมพระของหลวงปู่ทับ ท่านจะตะโกนเรียก วันนั้นท่านคงนึกอยากจะเล่นซ่อนหา ท่านก็เลยไม่เรียก ท่านจึงเจอไอ้หลานทรยศ "ไม่เรียกกูก็ไม่หา" ท้ายสุดท่านก็เลยต้องง้อด้วยการกลับมาเอง
ถ้าอยากแล้วเราจะไม่ได้จ้ะ ท่องแล้วทำใจสบาย ๆ จะกลับมาหรือไม่กลับมาก็แล้วแต่ท่านเถอะ
ถาม : เวลาปฏิบัติใช้อารมณ์ทิพจักขุญาณ ก็เหมือนกับมองเห็นคนที่หยิบพระไป แต่พอถามเขาไปจริง ๆ..?
ตอบ : อย่าทำอย่างนั้น เพราะเราเองไม่มั่นใจว่าเรารู้จริง ในเมื่อไม่มั่นใจว่าเรารู้จริง อาจจะเป็นการคาดคำนวณ เอาความรักชอบเกลียดชังส่วนตัวของเราบวกเข้าไปด้วย ถ้าเราไม่แม่นในทิพจักขุญาณขนาดพิสูจน์ได้ทุกเวลา จะใช้เป็นหลักฐานไม่ได้
ถาม : หนูจึงตัดใจไปเลย
ตอบ : จ้ะ ตัดใจไปเลย รอพระองค์ใหม่ก็แล้วกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-06-2011 เมื่อ 07:20
|