พระอาจารย์เล่าว่า "สังคมอินเดียโบราณ ถ้าเศรษฐีไม่มีลูกชาย ถึงเวลาตายไปเขาจะยึดสมบัติเป็นของหลวงหมด เพราะอย่างนั้นพ่อแม่ของพระรัฐบาลเถระถึงได้เป็นลมตอนท่านออกบวช เพราะไม่มีใครดูแลสมบัติ สมัยก่อนเขาไม่เชื่อความสามารถลูกผู้หญิง ต้องเป็นลูกผู้ชายเท่านั้นจึงจะให้ปกครองตระกูลต่อไปได้
พระสุทินนกลันทบุตรออกบวช พ่อแม่เสียอกเสียใจ อ้อนวอนเท่าไรลูกก็ไม่สึก พอพระสุทินน์กลับไปเยี่ยมบ้าน พ่อแม่จึงเอาทรัพย์สมบัติมากองไว้เต็มบ้าน ขอให้สึกมารักษาสมบัติท่านก็ไม่สึก พ่อแม่จึงขอให้ท่านมีหลานไว้สักคนหนึ่ง ถ้ามีหลานเป็นผู้ชายจะได้รักษาสมบัติไว้ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนยึดเป็นของหลวงหมด
สมัยนั้นยังไม่มีศีลของพระ พระสุทินน์ก็เลยไม่รู้ว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นสิ่งต้องห้าม ในเมื่อพ่อแม่ขอ ท่านก็ตกลง พ่อแม่จึงส่งภรรยาให้ไปนอนด้วย จนกระทั่งตั้งท้องขึ้นมา พระสุทินน์ก็สะกิดใจว่า เราเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์แล้วมาเสพเมถุนซึ่งเป็นเรื่องของคนคู่ ไม่น่าจะถูกต้อง
ท่านเกิดเครียด กังวลมาก ผอมดำดูไม่ได้เลย เพื่อนพระก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น พระสุทินน์ท่านจึงเล่าให้ฟัง เพื่อนพระก็ไปกราบทูลต่อพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านจึงเรียกมาสอบถาม แล้วก็บัญญัติศีลข้อแรกขึ้นมาว่า ภิกษุเสพเมถุนต้องอาบัติปาราชิก ถ้าใครทำเช่นนี้อีกจะขาดจากความเป็นพระไปเลย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-06-2011 เมื่อ 08:37
|