"หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านเป็นมะเร็ง การเจ็บปวดจากโรคมะเร็งนี่อธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่ถูก อย่าลืมว่าหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงครามนั้น ท่านเป็นลูกศิษย์สืบสายจากหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ ภาษิตจีนเขาว่า ภายใต้เงื้อมมือของขุนพลเข้มแข็งไม่มีทหารอ่อนแอ
เมื่อหลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านเจ็บปวดจากมะเร็ง มีวิธีก็คือหนีความเจ็บปวด ในเมื่อเข้าสมาธิหนีแล้ว ถึงเวลาออกมาก็ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดอีก ท้ายสุดเมื่อเห็นว่าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีพิจารณาให้เห็นว่าธรรมดาของร่างกาย มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นปกติอย่างนี้ ไม่เสียทีที่ท่านเป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะ ไม่เสียทีที่ท่านจบเปรียญธรรม ๙ ประโยครุ่นแรก ๆ เพราะว่าพอถึงเวลาปฏิบัติจริงท่านก็ทำได้ดี
อาตมาไปสรงน้ำท่านวันแรกเลย ก่อนน้ำหลวงพระราชทานนิดเดียว เห็นหลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านมาสว่างมาก ยังคิดว่า "ท่านไปสวยดีจัง" พอดีเขาพูดกันว่า ก่อนที่ท่านจะมรณภาพท่านบอกกับพระและญาติโยมว่า ท่านหมดภาระแล้ว
ประการสุดท้ายก็คือ พวกเรามีคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก บุคคลที่มั่นคงในคุณพระศรีรัตนตรัยจริง ๆ จะไม่เป็นอันตรายด้วยอุบัติเหตุต่าง ๆ ยกเว้นว่าหมดอายุขัย และอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า ท้าวจาตุมหาราชท่านเคยให้พรไว้ว่า "บุคคลใดก็ตาม ถ้าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ท่านจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต"
พวกเราดีในเรื่องที่ว่า ขณะทำสิ่งที่เป็นกองบุญการกุศลแล้ว เราก็อุทิศส่วนกุศลให้กับเทพเจ้าที่ปกปักรักษาพวกเรา เทพเจ้าทั่วสากลพิภพ ตลอดจนพระยายมราช ก็แปลว่าเราต่อสายสัมพันธ์ มีการเชื่อมโยงถึงท่านอยู่ตลอดเวลา อย่างไรเสียถ้าถึงเวลาท่านก็ไม่ทิ้งเราแน่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 02:45
|