อาตมาขอยืนยันว่า สภาพอากาศที่วิปริตแปรปรวน ภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น ถ้าเราจะกล่าวว่า มนุษย์ทำลายธรรมชาติ นั่นก็ถูก แต่ว่าเป็นสิ่งที่สายตาเรามองเห็นเท่านั้น
ในส่วนที่สายตาของคนทั่วไปมองไม่เห็นนั้น ก็คือว่า การกระทำของเรานั้นทุกอย่าง เมื่อตั้งเจตนาและลงมือกระทำแล้ว จะประกอบด้วยพลังงานส่วนหนึ่ง ถ้าหากว่าเป็นพลังงานในส่วนที่ดี ก็จะฉุดรั้งให้เราขึ้นสู่ที่สูง ถ้าเป็นพลังงานในส่วนที่ชั่ว ก็จะกดทับให้เราตกลงสู่ที่ต่ำ
คราวนี้กำลังที่เราทำไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ไม่ได้หายไปไหน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้รวมตัวกันอยู่ เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ บุคคลที่ปฏิบัติตามศีล สมาธิ และปัญญานั้นมีน้อย บุคคลที่ไร้ศีลไร้ธรรมมีมากกว่า เมื่อกำลังใจที่ประกอบไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง มีมากกว่า กำลังเหล่านี้พอสะสมมากเข้า ๆ ก็จะกลายเป็นพลังงานที่น่ากลัว สามารถทำให้ดินฟ้าอากาศ ตลอดจนธรรมชาติต่าง ๆ แปรปรวนวิปริตไปได้
อย่างบ้านเราตอนนี้ ก็ไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหนถึงจะปลอดภัย ภาคเหนือมีแผ่นดินไหว ภาคอีสานประสบภัยแล้ง ภาคกลางอยู่ ๆ ก็หนาวเย็น ลงไปภาคใต้น้ำท่วมไปหลายจังหวัดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนครศรีธรรมราช กระบี่ สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
หากว่าเรามีความยึดมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกจริง ๆ อันตรายต่าง ๆ จะมาไม่ถึงเรา พูดง่าย ๆ ว่า อำนาจคุณพระสามารถคุ้มครองป้องกันเราได้แน่นอน ยกเว้นว่า วาระซึ่งกฎของกรรมที่เราเคยทำไว้ในอดีตมาถึง ก็อาจทำให้ตัวเราประสบความเสียหายบ้าง แต่ก็จะไม่ถึงแก่ชีวิต เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2011 เมื่อ 19:55
|