เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔
อย่างที่ได้บอกไว้ว่า เดือนแรก ๆ คนจะน้อย ด้วยสาเหตุหลายประการด้วยกัน ประการแรก คือ ไม่รู้จักทาง มาไม่ถูก ประการที่ ๒ มาแล้ว สลับซับซ้อน มายาก ทำให้ถอดใจไปเสียก่อน ส่วนประการสุดท้าย ก็คือ ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น ต้องอาศัยกำลังใจในระดับปรมัตถบารมี ถ้าไม่ใช่คนที่กำลังใจเข้มแข็งจริง ๆ พอไปเจออุปสรรคที่ยากลำบากเข้า ก็มักจะท้อถอยเสียกลางคัน
สำหรับตอนนี้ ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่นอยู่เฉพาะหน้า กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของตนเอง หายใจเข้า..กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไปพร้อมกับคำภาวนา หายใจออก..กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามออกมากับลมหายใจพร้อมคำภาวนา
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการเจริญกรรมฐานวันแรก และครั้งแรกของบ้านวิริยบารมีแห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราได้มีสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง
ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าหากกำลังใจของเราทรงตัวมั่นคง ไม่ต้องถึงระดับพระอริยเจ้าหรอก เป็นเพียงผู้ทรงฌานเท่านั้น สภาพจิตที่โดนอำนาจของฌานกดเอาไว้ ทำให้รัก โลภ โกรธ หลง ไม่สามารถที่จะเจริญงอกงามได้ ก็จะมีความสงบความเยือกเย็นอยู่ในระดับหนึ่ง
ถ้าหากว่าทุกคนพร้อมใจกันทำจิตทำใจของตน ให้เข้าถึงความสงบความเยือกเย็นแบบนี้ ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ก็จะมีความสุขความสงบ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2011 เมื่อ 01:49
|