๑ อัพภันดร เปรียบได้กับระยะที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางวักน้ำสาดถึง เพราะฉะนั้น..วักน้ำ ๗ ครั้ง ก็ห่างประมาณ ๖ เมตร อย่างเกาะพระฤๅษีถือว่าเป็นอุทกุกเขปสีมาได้ แต่อุโบสถที่เกาะพระฤๅษี ห่างจากฝั่งด้านนอกน่าจะเกิน ๓๐ เมตร
ที่อื่นเขาจะมีการสวดทักนิมิต คือสมัยโบราณท่านไม่ได้สร้างโบสถ์เป็นหลังอย่างในปัจจุบัน ท่านใช้กำหนดนิมิตเอา คำว่านิมิต คือ เครื่องหมาย โดยการส่งพระ ๘ รูป ออกไปแปดทิศ ในระยะที่สามารถเข้าไปนั่งทำสังฆกรรมได้โดยสะดวก ท่านที่เป็นประธานก็จะสวดถามแต่ละรูป
อย่างเช่นว่า ปุรัตถิมายะ ทิสายะ กิง นิมิตตัง ทิศตะวันออกนั้นมีอะไรเป็นนิมิตหรือ ? ก็จะมีคำตอบว่า ปาสาโณ ภัณเต ก้อนหินขอรับ รุกโข ภัณเต ต้นไม้ขอรับ ปัพพะโต ภัณเต ภูเขาขอรับ เป็นต้น
ปัจจุบันนี้เหลือแต่ ปาสาโณ ภัณเต ก็คือ ก้อนหิน เนื่องจากลูกนิมิตสกัดมาจากหิน ตอนนั้นที่เกาะพระฤๅษีมี "อ่างบัว ภัณเต" อาตมาวางอ่างบัวไว้แปดทิศ เนื่องจากเป็นโบสถ์น้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องมีสีมา แต่วางอ่างบัวไว้เพื่อบอกขอบเขต
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-04-2011 เมื่อ 10:30
|