ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ในมุมมองส่วนตัวของเราเองอาจจะแคบเกินไป ต้องให้คนอื่นเขามองบ้าง ฝรั่งเขาว่า Thinking outside the box มองนอกกรอบ ออกไปยืนข้างนอกแล้วลองมองเข้ามาว่า ถ้าเป็นสายตาคนอื่นแล้วเขาจะมองเราอย่างไร ? เขามองด้วยความอิจฉาและเลื่อมใส หรือเขามองเราด้วยความเวทนาสงสาร ? ถ้าเราคิดโดยไม่เข้าข้างตัวเอง จะต้องมีสักวันที่เรารู้สึกว่าตัวเราน่าเวทนาเหลือเกิน
ความชำนาญของเราเพียงด้านเดียวอาจจะไม่เพียงพอ แต่โบราณเขาบอกไว้ว่า อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล นั่นแปลว่า เราต้องเชี่ยวชาญจนสามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์ ตามโอกาส ตามเวลาได้ ไม่ใช่ประเภทเก่งเฉย ๆ
ผู้รู้ท่านบอกว่า เก่ง คือ รู้เท่าที่อาจารย์สอน ถ้ายอด..ต้องพลิกแพลงคำสอนของอาจารย์ไปใช้งานได้ แต่ถ้าจะให้เยี่ยมจริง ๆ..คุณต้องบัญญัติใหม่ เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองดูบ้างว่า ในบางสิ่งบางอย่างที่เราทำนั้น ทำไมบางเวลาคำตอบที่ได้จึงไม่ตรงกับที่เราคิด ?
เราต้องรู้ว่าถ้าหากว่า Input ผิด คำตอบทุกคำตอบก็จะผิดไปด้วย ความจริง Input ไม่ได้ผิด แต่อาจจะสลับข้างเฉย ๆ จากหนึ่งสอง กลายเป็นสองหนึ่ง ก็ตัวเลขเดียวกัน แต่ทำไมจำนวนถึงได้ต่างกันขนาดนี้ ?
ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องดูว่า คำถามบางคำถาม เราอาจจะถามในสิ่งที่เราอยากรู้ แต่ขณะเดียวกันนั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากบอกกับเราหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าเราถามในสิ่งที่เราอยากรู้ เราจะได้คำตอบหนึ่ง แต่ถ้าถามในสิ่งที่เขาอยากบอกอยากเล่า เราจะได้อีกคำตอบหนึ่ง แล้วผลจะต่างกันมหาศาล จึงได้บอกว่าถ้า Input ผิด Output ก็จะแย่ไปด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 30-01-2012 เมื่อ 16:56
|