พระอาจารย์เล่าว่า "ปี ๒๕๔๙ ทหารปฏิวัติและยึดอำนาจ มีโยมมาถามอาตมาว่า บ้านเมืองเราจะดีขึ้นแล้วใช่ไหม ? อาตมาบอกว่า บ้านเราถ้าไม่ถึงปี ๒๕๕๖ แล้วดียาก
ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ แต่ปัจจุบันนี้ยืนยันได้แล้ว ถึงปี ๒๕๕๔ แล้วยังเอาดีไม่ได้เลย แต่ปี ๒๕๕๖ ก็ไม่ใช่ดีพรวดพราดขึ้นไปนะ ดีในลักษณะเข็นครกขึ้นภูเขา เข็นกันหลายปีทีเดียวกว่าจะดีจริง
ของบางอย่างบอกไป ก็เหมือนกับบ้าอยู่คนเดียว เพราะสถานการณ์ตอนนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด ตอนนั้นประชาชนดีใจ สนับสนุนการปฏิวัติ ถึงขนาดเอาดอกไม้ไปไล่แจกทหาร คิดว่าบ้านเมืองน่าจะดีขึ้น
เรื่องลักษณะอย่างนี้เคยมีอยู่ ๒-๓ ครั้ง ครั้งหนึ่งก็คือ คุณบังเอิญ อ่องคล้าย ภรรยาของจ่าปัญญาที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง ช่วงที่กิจการท่านดี ท่านก็ไล่กว้านซื้อที่ดิน ซื้อไปสามร้อยกว่าแปลง แปลงใหญ่ ๆ ขนาด ๓๐๐-๕๐๐ ไร่ ก็มี
พอปี ๒๕๔๐ เศรษฐกิจตก คุณบังเอิญก็มาถามว่า กว่าจะดีขึ้นอีกนานไหม ? เพราะตอนนี้เงินสดในมือไม่มีเลย อาตมาก็บอกไปว่า อย่างของคุณบังเอิญต้องอีกประมาณ ๘ ปี คุณบังเอิญจากไปด้วยความไม่เชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่น่าจะนานอย่างนั้น เพราะถ้าเขาสามารถขายที่ดินได้สักผืนเดียว เขาก็ยืนได้สบายแล้ว
หลังจากนั้น ๘ ปีผ่านไป คุณบังเอิญก็มาใหม่ มาขอขมาที่คราวนั้นไม่เชื่อ อาตมาบอกว่า สิ่งที่อาตมาพูดเป็นเรื่องที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว ไม่ต้องขอขมาก็ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2011 เมื่อ 03:13
|