เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้าศึกษาเอาไว้ จะช่วยได้มาก จำไว้ว่า เรื่องของผี ถ้าเข้าคน อย่าไปไล่เขา ถ้าไม่มีกรรมเนื่องกันมา เขาเข้าไม่ได้หรอก จะต้องมีเวรมีกรรมบางอย่างเนื่องกันมา ให้ใช้วิธีต่อรองกับเขา ถามเขาว่าต้องการอะไร ? ถ้าหากว่าไม่เกินวิสัย เราก็สงเคราะห์ให้เขา เช่น ทำบุญถวายสังฆทานให้เขา เป็นต้น
ถ้าต่อรองกันแบบนี้ก็จะง่าย แล้วเราก็ไม่ได้สร้างศัตรูด้วย แต่ถ้าเราไล่เขาไป เขาจะวนเวียนอยู่แค่นั้น เผลอเมื่อไรเขาก็เอาอีก ส่วนใหญ่ที่ผมเจอมา ผมจะใช้วิธีให้เขารับไตรสรณาคมน์ บอกเขาว่า ให้ตั้งใจยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
ว่านะโม ๓ จบ ให้เขาว่าตาม ว่าพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯ ตติยัมปิฯ ให้เขาว่าตาม ก่อนว่าบอกเขาว่า ทันทีที่เห็นแสงสว่างมาจากทางไหน ให้ไปทางนั้นเลย เราจะได้ไปภพภูมิที่ดีกว่าอย่างแน่นอน
ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น ส่วนใหญ่ว่าไตรสรณาคมน์ยังไม่ทันจะครบเลย ก็เห็นแสงสว่าง แล้วก็ไปกันหมด เราไม่ต้องเสียเวลาไปตี ไปบังคับ ไปต่อสู้กับเขา บางรายเขาตีกันมาเป็นวัน ๆ เหนื่อยกันแทบตายทั้งหมอผีทั้งผี จนกระทั่งไปไม่รอดก็หามร่องแร่งกันมาทางด้านนี้ ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากให้เขายึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
เรื่องพวกนี้แม้ว่าจะอยู่ในลักษณะของไสยศาสตร์ ไม่สามารถช่วยให้เราหลุดพ้นได้ แต่ว่าอันดับแรก เราป้องกันตนเองไม่ให้มีอันตรายได้ อันดับที่ ๒ สามารถช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนได้ ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาไว้บ้าง
เพราะว่าพุทธกับไสย ตื่นกับหลับ เป็นของคู่กัน พุทธศาสตร์เจริญรุ่งเรืองเท่าไร ไสยศาสตร์ก็เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น เหมือนอย่างกับว่าน้ำไปได้แค่ไหน ปลาก็ไปได้แค่นั้น เขาเป็นของที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้
เพียงแต่ว่า ถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝ่ายหนึ่งกระทบ อีกฝ่ายหนึ่งก็เดือดร้อน เรียนรู้เอาไว้บ้างก็ดี สำหรับวันนี้ก็คงจะพอเท่านี้ก่อน เรื่องของคาถา สมัยก่อนหลวงพ่อสอนผมไว้มาก ถ้าใครอยากรู้ว่า มีคาถาอะไรที่ใช้เฉพาะงานต่าง ๆ ก็มาสอบถามกันทีหลังได้
-------------------------------------
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-03-2011 เมื่อ 19:40
|