"...ต้องพยายามที่จะรู้อยู่เสมอว่าอันนี้คืออะไร ตัวกำลังทำอะไร สติก็ระลึกรู้ว่าอันนี้อะไร แล้วก็สัมปชัญญะก็รู้ว่าตัวกำลังทำอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่สติสัมปชัญญะ อันนี้พูดในระดับสูงกว่าที่พูดถึงว่านำดอกไม้ไปบูชา เป็นทางไปสู่จุดหมายของพุทธศาสนา สติสัมปชัญญะนี้เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อนำไปสู่ความชอบ ความสุข ความอดทน
ฉะนั้นที่พูดอย่างนี้กับคณะท่านพระครูก็เพราะว่าท่านทั้งหลายสนใจในการอยู่ดีกินดี และสนใจในความดีในจิตใจ สามารถที่จะดำรงชีวิตด้วยความสงบสุข คืออยู่ดีกินดีก็หมายความว่าทำหน้าที่อาชีพอย่างสุจริต และจิตใจที่มีความสุขนั้น ทำด้วยการฝึกจิตใจแต่ละบุคคลให้เห็นความดีด้วยสติสัมปชัญญะ ถือว่าเป็นขั้นที่จะไปสู่ความสงบ ไม่ใช่ว่าไปนั่งวิปัสสนาในวัดเท่านั้นเอง นั่นนะส่วนหนึ่งนั่งวิปัสสนา นั่งกรรมฐาน แต่การปฏิบัติทุกวันทุกเวลาที่ตื่นมีสติสัมปชัญญะ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคนทำได้ถ้าตั้งใจ อันนี้เป็นความดีความอดทน และก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติพระพุทธศาสนา..."
พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสที่พระครูใบฎีกาเล็ก ญานุตฺตโร
วัดหลวงปรีชากูล อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และคณะเฝ้าถวายเงิน
เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัยและต้นเทียนพรรษา
วันจันทร์ ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๒๘