"ถ้าหากเราแพ้รูป แพ้รส แพ้กลิ่น แพ้เสียง แพ้สัมผัส ตัวไหนก็ตาม ต้องพยายามสู้จนกว่าจะเอาชนะให้ได้ แต่การที่เราจะสู้จนชนะได้ บางอย่างก็อันตรายเกินไป อย่างเราแพ้รูปจะสู้ให้ชนะก็แปลว่า เราต้องไปประจัญกับเพศตรงข้าม ซึ่งไม่รู้ว่าแพ้กันมากี่แสนชาติแล้ว โอกาสที่จะไปลุ้นแทบจะไม่มีเลย เพราะฉะนั้น..เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปก่อน คนไหนที่พอคิดว่าสู้แล้วไม่อันตรายมาก ค่อยไปทดลองดู
อย่างตอนนั้นอาตมาแพ้เสียงคุณวงจันทร์ ไพโรจน์ ก็เอามาเปิดฟัง แพ้เสียงคุณลัดดา ประวัติวงศ์ ก็เอามาเปิดฟัง ตอนหลังมีคุณสุนทรี เวชานนท์เพิ่มมาอีกคน ตายละวา...นึกว่ารอดแล้ว ยังมีโผล่มาอีก
ฟังจนใจไม่ไหลตามเพลงได้ บางทีก็นั่งร้องเพลงเองเลย ร้องเพลงแล้วสังเกตใจว่าไหลตามเพลงไปหรือไม่ ? มีอารมณ์คล้อยตามไปหรือไม่ ? ยังคิดยังชอบ ยังจินตนาการปรุงแต่งตามเพลงไปเรื่อยหรือเปล่า ? จนกระทั่งมั่นใจว่าสู้ได้แล้วแน่ ๆ อาตมาจึงได้เลิกฟัง
เรื่องพวกนี้บางทีขึ้นอยู่กับการฝึกหัดของพวกเราเอง เพราะความอยากดีจริง ๆ ในเมื่อเราแพ้สิ่งนี้เราก็ต้องชนะให้ได้ นี่เป็นมานะอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่เป็นมานะในด้านที่ดี เป็นความพอใจในการปฏิบัติธรรม เราต้องสู้ให้ได้ ถ้ายังสู้ไม่ได้ ไม่เลิกเด็ดขาด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2011 เมื่อ 03:06
|