พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนพี่ ๆ ที่วัดท่าซุง พอหลวงพ่อท่านสร้างรูปหล่อองค์ยืนในวิหารร้อยเมตร คนนั้นก็ไปอธิษฐาน คนนี้ก็ไปอธิษฐาน เช่น บางคนขอเป็นไม้เท้า บางคนขอเป็นรองเท้า ส่วนอาตมาไม่เอาอะไรเลย..!
พออาตมาไปอยู่ที่ทองผาภูมิ วันหนึ่งกำลังนั่งรถทัวร์อยู่ ได้ยินเสียงเป่ายานัตถุ์ดัง "ฟืดดดดด...!" อยู่ข้าง ๆ หู ได้กลิ่นยานัตถุ์ รู้สึกอยากแทบน้ำลายยืดเลย ตกใจรีบบอกกับท่านว่า "หลวงพ่อครับ หมากก็ไม่เอา ยานัตถุ์ก็ไม่เอา แว่นตาก็ไม่เอานะครับ" ท่านก็บอกว่า "ไม้เท้าจะเอาไหม ?" งานนี้ตอบว่าเอาหรือไม่เอาก็โดนแน่ ก็เลยเงียบ
พี่คนนั้นก็หมาก พี่คนนี้ก็ยานัตถุ์ จะต้องมีสักอย่างที่อาตมาโดนจนได้ แต่อย่างไรชาตินี้ไม่เอาเด็ดขาด พอปี ๒๕๔๘ อาตมาเริ่มเรียนหนังสือ ปรากฏว่าเวลาอ่านหนังสือต้องยื่นไปสุดแขน อ่านหนังสือได้ไม่นาน เมื่อยมือก็เลิก จึงตัดสินใจใส่แว่น
พอไปวัดสายตา ตัดแว่นเรียบร้อย หยิบแว่นลองใส่ จำได้แม่นเลย หลวงพ่อท่านหัวเราะใส่หู "คราวนี้เอ็งรู้แล้วใช่ไหม ว่าที่ข้าใส่แว่น ข้าอยากได้มันนักนี่..!" สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าแก่จึงจำเป็นต้องใส่ ไม่ใช่ใส่เพราะอยากจะใส่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2011 เมื่อ 04:28
|