ถาม : อ่านหนังสือจีนกำลังภายใน จะมีพวกงำประกาย ซ่อนฝีมือตัวเองไว้มิดชิดมาก พวกนี้เขาตั้งใจไหมคะ ?
ตอบ : ตั้งใจสิจ๊ะ
ถาม : ทำไมเขาต้องซุกฝีมือไว้ด้วย ?
ตอบ : เอาอย่างนี้ ถ้าเป็นการปฏิบัติในพระพุทธศาสนาของเรา บุคคลพอเข้าถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็คือคนธรรมดาที่ยิ่งกว่าธรรมดา
ถ้าคุณแสดงความสามารถให้เขาเห็น ก็มีอยู่สองอย่าง คนที่เขาหาว่าบ้าก็เท่ากับปรามาสพระรัตนตรัย ส่วนคนที่ไม่เห็นว่าบ้า แต่เขาเชื่อแล้วมาหาแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น ถ้าเป็นเราจะรับไหวไหมเล่า ? นั่นแหละที่ทำให้เขาจำเป็นต้องงำประกาย
แค่ว่าสมมติว่าเราเป็นคนเก่ง คนเขาอยากรู้จักเรา เพื่อที่จะเอาไปอ้างกับคนอื่นว่ารู้จักเรา แค่พวกนี้พวกเดียวมาก็แย่แล้ว ยังไม่ต้องคิดถึงพวกที่มาเพื่อขอความช่วยเหลือนะ
ถาม : จะต้องเป็นอย่างนี้เสมอเลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : พอไปถึงตรงนั้นแล้ว เราจะมีความสำนึกตัวดีว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่อย่างนั้นคุณแย่แน่
ถาม : แล้วใช่อารมณ์เดียวกับอารมณ์ที่เป็นอุเบกขาในการเข้าถึงอะไรสักอย่างไหมคะ ?
ตอบ : จะมีบางประเภทที่ปล่อยวางได้อย่างนั้น ประเภทนี้จะไม่สนใจชื่อเสียงเกียรติยศอะไรในวงยุทธจักรเลยก็มี ส่วนน้อยจะเป็นอย่างนั้น
ส่วนมากจะเป็นพวกเบื่อ รำคาญเรื่องราวต่าง ๆ ประเภทขี้หมูราขี้หมาแห้งที่จะมาถึงตัวเอง จึงจำเป็นต้องปิด
ถาม : แต่ถ้ากรณีอย่างนี้ พอถึงคราวจะเปิด ก็ต้องอยากจะเปิด แบบว่าได้จังหวะก็แสดงเลย
ตอบ : ใช่..ต้องรองานประเภทงานชุมนุมเจ้ายุทธจักรอะไรอย่างนั้น พอแสดงให้คนเขาเห็นเสร็จแล้วก็หายหัวไปเลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2011 เมื่อ 16:50
|