"ถึงบอกว่าการบูชาด้วยดอกไม้ไปประดับนั้น ก็คือเป็นทางไปสู่ความดีหรือความอดทน อีกทางหนึ่ง การเอาดอกไม้ไปประดับประดาตามพระพุทธรูปในโบสถ์หรือที่หิ้งบูชา การนำไปประดับให้สวยงามนั้นจะได้ความหลุดพ้นไปได้อีกทางหนึ่งซึ่งก็นับว่าคล้ายกัน
หมายความว่าจะได้วิมุติเหมือนกันคือหลุดพ้น เพราะว่าถ้าเรานำไปประดับประดาสวยงาม เราก็มีความปลื้มเพราะมันสวย เรามีความสบายใจ มีปีติ ปีตินี่คือความปลื้มใจ ความภูมิใจ มีความรู้สึกว่าเบา เป็นความปลื้มใจที่ไม่เสียหาย
เป็นปีติที่เกิดความเบาใจ ความสบาย ความสบายนั้น ถ้านำมาในทางที่ดีที่ชอบ ความสบายใจแบบนี้ปีติแบบนี้ก็จะนำไปสู่ความสงบสุข อยู่อย่างมีความสุข มีความสุขแล้วก็มีความสงบไปสู่ความว่างได้ คือเป็นอุเบกขา ความปีตินั้นนำไปสู่อุเบกขา
อุเบกขานั้นหมายความว่าเราไม่ยินดีไม่ยินร้าย แต่แท้จริงคือว่า เห็นอะไรก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่าไม่ยินดียินร้าย ไม่มีความยินดี ดีใจถูกใจ"
พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสที่พระครูใบฎีกาเล็ก ญานุตตะโร
วัดหลวงปรีชากูล อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และคณะเฝ้าถวายเงิน
เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัยและต้นเทียนพรรษา
วันจันทร์ ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๒๘