พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "ถ้าคนที่รู้จักกันเมื่อสมัยก่อนมาเห็นอาตมาตอนนี้ จะไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะก่อนอายุ ๒๕ อาตมาพูดแทบจะนับคำได้ โดยเฉพาะช่วงอายุ ๑๖-๒๕ ปีที่ตั้งหน้าปฏิบัติกรรมฐาน อาตมาจะเอาแต่ปฏิบัติไม่สนใจใครเลย
ปฐมเหตุที่จะต้องมาพูดน้ำลายแตกฟอง เกิดจากฝึกมโนมยิทธิได้แล้ว หลวงพ่อท่านให้เป็นครูฝึกที่สายลม ถึงเวลาลูกศิษย์เขาเกิดปัญหา เราไปฟังคนอื่นเขาอธิบายแล้วไม่เข้าเป้าเสียที รู้สึกรำคาญ ก็เลยคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องพูดเสียแล้ว
จึงเดินลุยเข้าไปในวง ยกมือไหว้พี่ป้าน้าอา บอกว่า "ขอผมคุยด้วยนะครับ" ทำเขาตะลึงกันหมด โดยเฉพาะป้าน้อย (กานดา) "ไอ้หนู..ข้าคิดว่าชาตินี้แกจะไม่พูดกับใครแล้ว"
บางอย่างเรามั่นใจว่าถูกแน่นอน เพราะปฏิบัติมา ผ่านมาแล้ว แต่คนอื่นเขาอธิบายเลียบ ๆ เคียง ๆ ขี่ม้าอ้อมเมืองไม่เข้าเป้าเสียที ฟังไปฟังมาทนไม่ได้ ขอลงไปลุยเอง ก็เลยกลายเป็นอย่างที่เห็น
คนเก่า ๆ ถ้าคบหากันมาตั้งแต่บ้านสายลมระยะแรก ถ้ามาเจอตอนนี้เขาคงไม่เชื่อ คิดว่าเป็นคนละคน จากเด็กที่ไม่ยอมพูดกับใครเลย เอาแต่รักษาอารมณ์ภาวนา กลายเป็นพูดไม่ยอมหยุด รู้จักเจ้าหนูจำไมหรือเปล่า ? เขาเป็นเจ้าของคำว่าทำไม ๆ แต่พูดไม่ชัดนั่นแหละ แต่พูดไม่หยุด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2011 เมื่อ 03:26
|