เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๓
ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตน ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนาที่เราถนัด หายใจเข้ากำหนดรู้ตามไปพร้อมกับคำภาวนา หายใจออก กำหนดรู้ตามไปพร้อมกับคำภาวนา
สำหรับวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นการปฏิบัติธรรมประจำเดือนธันวาคมวันที่สองของพวกเรา ระยะนี้มีญาติโยมหลายท่าน ถามปัญหาคล้ายคลึงกัน อย่างเช่นว่า กระผมเหมาะกับกรรมฐานกองไหน ? หรือว่า ดิฉันปฏิบัติแล้วจะมีโอกาสบรรลุมรรคผลบ้างหรือไม่ ? เมื่อได้ยินปัญหาพวกนี้ อาตมาอยากจะบอกว่า โยมใกล้จะหลงทางแล้ว แต่ก็เกรงใจ
ขอให้ทุกท่านทราบว่า การปฏิบัตินั้น เราจะต้องรู้ด้วยตนเอง ว่ากรรมฐานกองไหนเหมาะสมกับเรา เพราะว่าแม้แต่พระสารีบุตรมหาเถระเจ้า อัครสาวกเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศไปด้วยปัญญา ก็เคยให้กรรมฐานแก่ลูกศิษย์ผิดกองมาแล้ว
พระสารีบุตรเห็นบุตรชายนายช่างทองเป็นพระหนุ่ม หน้าตาดี คิดว่าต้องเป็นผู้ที่มากด้วยกามราคะ จึงให้ปฏิบัติในกายคตานุสติและอสุภกรรมฐาน ปรากฏว่าทำอยู่นานก็ไม่เกิดผล เนื่องจากลูกชายนายช่างทองนั้นเป็นพุทธวิสัย คือเป็นบุคคลที่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะสงเคราะห์ได้
พระสารีบุตรจึงนำลูกชายนายช่างทองไปกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า กุลบุตรผู้นี้ได้รับเอากายคตานุสติและอสุภกรรมฐานไปปฏิบัติเป็นระยะเวลานานแล้ว ยังไม่เห็นผล องค์สมเด็จพระทศพลทรงตรัสว่า "สารีปุตตะ ดูก่อน..สารีบุตร ขึ้นชื่อว่า กุลบุตรผู้มีศรัทธาที่ตถาคตจะสอนไม่ได้นั้นไม่มี ขอเธอจงมอบกุลบุตรนี้ไว้ในสำนักตถาคตเถิด ตถาคตจะสั่งสอนให้เอง"
เมื่อพระสารีบุตรมอบลูกชายนายช่างทองให้แก่พระพุทธเจ้าแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงพิจารณาว่า แท้จริงแล้วลูกชายนายช่างทองเป็นบุคคลที่ประกอบไปด้วยโทสะจริต จึงได้เนรมิตดอกบัวทองคำแต่เป็นสีแดง มอบไว้ให้เพื่อนำไปภาวนาและพิจารณา จนกระทั่งบรรลุอรหัตผล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-12-2010 เมื่อ 01:56
|