ดังนั้น การที่เรากำหนดอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรานี้ ไม่ว่าเราจะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ตาม หรือไม่ใช้คำภาวนาก็ตามที ถ้าเราสามารถรักษาความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้า อยู่กับลมหายใจออก รู้ตลอดโดยไม่ส่งกำลังใจไปไหน ก็แปลว่าเราสร้างกุศลมหาศาลให้เกิดขึ้นกับตัวของเราเอง เพราะว่าจิตใจไม่ได้ปรุงแต่งไปในด้าน รัก โลภ โกรธ หลง มีสติอยู่กับปัจจุบันธรรม
นี่เป็นมหากุศลกามาวจรจิต ที่บังเกิดขึ้นกับใจของแต่ละคน จะสั่งสมเป็นบุญกุศล ซึ่งภายหลังจะส่งผลให้พวกเราทั้งหลายหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้
ดังนั้น ในการปฏิบัติวันนี้ ให้ทุกคนทำตามความถนัดของตัวเอง คือกำหนดดูลมหายใจเข้า ลมหายใจออก พร้อมกับคำภาวนาที่เรามีความชำนาญ ถ้าหากว่าลมหายใจเบาลง ให้กำหนดรู้ว่าเบาลง ถ้าหากว่าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าขณะนี้ลมหายใจและคำภาวนาหายไป
อย่าอยากให้เป็นอย่างนั้น และอย่าอยากให้หายจากอาการเหล่านั้น ให้รู้ทันปัจจุบันขณะอยู่ตลอดเวลา แล้วรักษาอารมณ์เอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-11-2010 เมื่อ 13:17
|