"ถ้าเราเอาความรู้ตรงนี้มาใช้ในหลักการปฏิบัติของเรา ก็คือ ถ้ารากฐานของเราไม่มั่นคง โอกาสที่จะชนะกิเลสของเราก็ไม่มี
จุดที่ควรจะให้มั่นคงมาก ๆ คือ ศีลและสมาธิ ถ้าศีลและสมาธิไม่ทรงตัว โอกาสที่จะใช้ปัญญาไปปราบกิเลสก็ยาก
เราอย่าลืมว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ บรรดาพราหมณ์ต่าง ๆ เขาทรงสมาบัติ ๘ กันเป็นปกติ แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าก็ยังต้องไปศึกษาจากสำนักของอาฬารดาบสและอุทกดาบส จนกระทั่งได้สมาบัติ ๘ แล้วจึงพิจารณาเห็นว่าไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ และไปแสวงหาทางพ้นทุกข์เองนานถึง ๖ ปี กว่าจะบรรลุมรรคผล
ดังนั้น...ถ้าพื้นฐานไม่มั่นคง โอกาสที่เราจะจะต่อยอดพัฒนา จนกระทั่งกลายเป็นปัญญาในการตัดกิเลสก็ยาก
ขณะเดียวกัน..เราจะคิดว่าพื้นฐานศีลและสมาธิมั่นคงแล้ว จะสามารถช่วยในการตัดกิเลสได้ ก็ยังไม่ใช่..เพราะถ้าขาดตัวปัญญา จะเป็นเหมือนอาจารย์ต่าง ๆ ในสมัยโบราณ ไปไม่รอด ติดอยู่แค่พรหม ดังนั้น..ให้ทุกคนเร่งสร้างพื้นฐานของตัวเองให้มั่นคงไว้ก่อน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 12-10-2010 เมื่อ 01:58
|