เป็นหลักธรรมอันล้ำลึกที่หลวงปู่สอนครั้งแรก จากนั้นท่านก็พูดต่อ “คนเราเกิดมามีกฎเกณฑ์ มีกฎกรรมเป็นของตัวเอง ตามกฎกรรมเราจึงได้มาเป็นครูเป็นศิษย์ต่อกัน ต่อไปพบกันก็ดี ไม่พบกันก็ดี ความเป็นครูศิษย์ก็ไม่หายไปจากใจ จะทำได้ไหม? ทำไม่ได้ก็ไม่มีครู ไม่มีศิษย์ อยู่กันคนละโลก ความเป็นครูกับศิษย์สถิตอยู่ในใจ เป็นคน ๆ เดียวกัน อยู่ไม่ห่างกัน จะใกล้ชิดกันอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ก็จะถือว่ามีวาสนาต่อกัน
ความสงสัยเป็นเครื่องหมายของคน “โง่” การตัดสินใจบนพื้นฐานของความสงสัยก็คือ การตัดสินใจบนพื้นฐานของคน “โง่” จงตัดสินใจเชื่อ ไม่เชื่ออย่างคนฉลาด
“เลิกโง่” คือ ลงมือทดลอง ทดลองแล้วไม่พบ อย่าคิดว่าไม่มี ไม่จริง อาจยังไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง มีชีวิตไม่สู้ คือ คนตายเท่านั้น
“อยากเป็นคนเป็น หรือคนตาย” อยากเป็นคนตายไม่ต้องคิด อยากเป็นคนเป็นก็ต้องคิด ต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ต้องสู้เพื่อค้นหาความจริงให้พบ คือ หนทางแห่งความสงบสุขภายใต้ความหมดจดจากกิเลส ความเศร้าหมองทั้งหลาย ต้องต่อสู้อย่างนี้ เพราะการถูกครอบงำด้วยกามนั้น มันมาเอง ไม่ต้องต่อสู้ จิตคนเรามันพร้อมอยู่แล้วที่จะรับ ไม่ต้าน การต้านนั้นต้องต่อสู้อยู่กับตัวเองตลอดเวลา และมักจะเป็นฝ่ายแพ้แก่ตนเองมากกว่าชนะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 23-08-2010 เมื่อ 11:30
|