พระอาจารย์กล่าวถึงเทคโนโลยีว่า "เรื่องของเทคโนโลยีนั้นเป็นเรื่องจำเป็น เพราะว่าเป็นส่วนช่วยให้โลกเจริญขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อย่าให้ถึงกับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรา
เป็นห่วงเด็กรุ่นใหม่ ๆ ว่า ถ้าขาดคอมพิวเตอร์แล้วจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ในหัวตัวเอง เพราะอะไร ๆ ก็ให้คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลแทน แล้วตัวเองก็ไม่จำ กลายเป็นสมองกลวง ถ้าอยู่ ๆ เกิดพายุสุริยะขึ้นมา ข้อมูลโดนลบเกลี้ยงทั้งโลก ก็เสร็จเรียบร้อยเลย ทำอะไรไม่เป็นอย่างแน่นอน..!
แค่รุ่นพวกเรา ที่อาตมาเคยไปพาเที่ยวบึงลับแลเมื่อ ๑๐ - ๒๐ ปีก่อน ไปกัน ๑๗ - ๑๘ คน เราก็เห็นว่าเยอะดี จะให้ช่วยเราทำงานแทน ถามว่า "ใครหุงข้าวเป็นบ้าง ?" เขาถามกลับมาว่า "เสียบปลั๊กตรงไหน ?" สรุปแล้วก็คือพระต้องไปหุงข้าวให้เขากิน..!
พอเรายอมให้เทคโนโลยีเป็นทุก ๆ อย่างในชีวิตแล้ว สมรรถภาพก็เสื่อมไป เดี๋ยวนี้ต้มยำทำแกงก็ไม่เป็น เพราะมีประเภทสำเร็จรูปใส่ห่อมาให้เลย เทลงหม้อก็ใช้ได้ หรือไม่ก็อุ่นในเตาไมโครเวฟก็กินได้แล้ว สบายจังเลย
นึกถึงที่พระยามารเขาคุย เขาบอกเราว่า "เสียเวลาที่ท่านจะไปสอน เพราะผมครอบซ้ำไปอีกหลายชั้นแล้ว" ฟังดูแล้วน่าท้อนะ แต่ขอโทษ..ท้อได้แต่ไม่ถอย..!
สมัยก่อนเขาว่า "ด้วยหน้าที่ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบที่รบอยู่มิรู้สิ้น" ที่รบไม่เลิกเพราะมันเป็นหน้าที่ ในเมื่อเป็นหน้าที่ก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2010 เมื่อ 05:33
|