เราจะเห็นว่า ปัญญาต้องนำหน้ามาก่อนเสมอ พระพุทธเจ้าในแต่ละชาติที่พระองค์ท่านเสวยพระชาตินั้น เรื่องของปัญญาไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะพระชาติที่ต้องสร้างปัญญาบารมีแล้ว บางทีเราอาจจะเห็นว่า ท่านฉลาดเกินมนุษย์มนาก็มี
อย่างในกุสานาฬิชาดก***** น่าจะใช่นะ...ไม่ทราบว่าผมจะจำชื่อถูกหรือเปล่า ? พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นเทวดาที่มีศักดานุภาพน้อย เป็นรุกขเทวดาแต่อานุภาพน้อยมาก ต้นไม้ใหญ่ที่จะใช้วิมานเกาะอย่างคนอื่นก็ไม่มี ต้องไปอาศัยกอหญ้าคาอยู่
กุสะ แปลว่า หญ้าคา แม้ว่าศักดานุภาพน้อย บุญน้อย เพราะการสั่งสมมายังไม่มาก แต่เรื่องของคนฉลาด มีปัญญาเสียอย่าง เรื่องมีอยู่ว่า
พระเจ้าแผ่นดินท่านจะสร้างพระตำหนัก ก็ให้บรรดาข้าราชบริพารไปสำรวจหาต้นไม้ เอาต้นที่ใหญ่ ตรง แล้วก็สมบูรณ์ เพื่อที่จะมาทำเสาเอก ปรากฏว่าไปเจอเอาต้นที่อยู่ใกล้ ๆ กอหญ้าคาพอดี เห็นว่าใหญ่ ตรง สมบูรณ์อย่างที่ต้องการ เขาก็ทำพิธีพลีกรรม
พลีกรรมก็คือการบวงสรวงบอกกล่าว พอทำพิธีพลีกรรมแล้ว พรุ่งนี้ถึงจะมาตัด รุกขเทวดาทั้งหลายก็เดือดร้อนกันยกใหญ่ ไหนจะลูกไหนจะเมีย กระจองอแงกันไปหมด
คุณต้องสังเกตให้ดีตรงนี้ว่า เทวดาระดับต่ำ ๆ นี้ ก็ยังดำรงชีวิตคล้าย ๆ มนุษย์ มีครอบครัว มีลูก แล้วก็มีความทุกข์ความเดือดร้อนเหมือนกัน อย่างเช่นอยู่ ๆ จะโดนรื้อบ้านแบบนี้ เขาจะเอาต้นไม้ไปปลูกพระตำหนัก จะไม่ยอมก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาบอกกล่าวถูกต้องแล้ว โดยอำนาจของผู้ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
หลวงพ่อโต วัดระฆัง ท่านใช้คำว่า “เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน” ท่านเป็นเจ้าของทั้งฟ้าทั้งแผ่นดิน เพราะฉะนั้น..ทุกสิ่งทุกอย่างบนผืนแผ่นดินนี้เป็นของท่านหมด แม้กระทั่งต้นไม้ที่เทวดาอาศัยก็เป็นของท่าน โดยเฉพาะผู้ที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนใหญ่แล้วเป็นพระโพธิสัตว์มาสร้างบารมี บารมีท่านสูงกว่า ในเมื่อท่านต้องการ เทวดาที่บารมีต่ำกว่า ก็ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ ต่อต้านไม่ได้
อย่างสมัยที่สร้างทางรถไฟผ่านดงพญาเย็น สมัยก่อนเรียกว่าดงพญาไฟ ตรงแก่งคอยเขาเรียกผาเสด็จ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ไม่มีใครตัดได้ ถ้าหากว่าใช้เลื่อยใช้ขวานนี่ คนใช้ก็จะบาดเจ็บด้วยเลื่อยด้วยขวานของตัวเอง หรือไม่จะดื้อเอาจริง ๆ ระมัดระวังเต็มที่ บางทีก็ลงไปชักดิ้นเอาเฉย ๆ
จะใช้รถใหญ่อย่างพวกแทรกเตอร์ ไปฉุดไปลาก ไปดันไปขุดก็ไม่ได้ เพราะเข้าไปใกล้ก็เครื่องดับ ท่านแม่กองสร้างทางรถไฟ จำไม่ได้ว่าเป็นท่านใด ก็ถวายหนังสือกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๕
หมายเหตุ :
***** อรรถกถาพระสุตตันตปิฎก : ขุททกนิกาย : เอกนิบาต : เล่มที่ ๓ ภาคที่ ๒ : กุสานาฬิวรรค เรื่องที่ ๑
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2010 เมื่อ 01:45
|