ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 07-07-2010, 08:22
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ในพุทธศาสนา พระองค์สอนอุบายในการปฏิบัติไว้ ๘๔,๐๐๐ วิธี เพื่อให้เหมาะกับจริตและนิสัยและกรรมของคนแต่ละคนที่มีอยู่ แต่ละคนได้สร้างกรรมหรือการกระทำไว้ในอดีตไม่เหมือนกัน ไม่เสมอกัน พระองค์เป็นพระพุทธเจ้า ย่อมรู้จริต รู้นิสัย รู้กรรมในอดีตของแต่ละคนแต่ละหมู่เหล่าได้อย่างดี และรู้วิธีว่าจะสอน จะแนะนำเขาอย่างไร จึงจะได้ผล และรู้ผลล่วงหน้าด้วยว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และก็ได้ผลตามนั้นทุกครั้ง ทุกราย คุณธรรมพิเศษนี้จึงมีแต่เฉพาะพระองค์ผู้เดียวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีผู้ที่ไม่เข้าใจพระองค์ จึงไปคัดค้านคำสอนของพระองค์โดยตรงก็มี โดยอ้อมก็มี เช่น

ก. สอน-แนะ-พูด-เขียน ความว่า เทวดาไม่มี พรหมไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นิพพานไม่มี และคนตายแล้วสูญ เป็นต้น

ข. พระพุทธเจ้า ไม่มีฤทธิ์อะไรหรอก ที่เขียนไว้ในพระไตรปิฎกนั้น เป็นธรรมาธิษฐาน คือตีความหมายเป็นธรรมว่า อย่างนั้น อย่างนี้ ด้วยธรรมะของตน อันเป็นธรรมที่เกิดจากจิตของคนที่ยังมีกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม (อวิชชา หรือความโง่) ซึ่งล้วนเป็นธรรมที่เป็นอกุศลทั้งสิ้น เพราะจิตเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิตั้งแต่ต้น ความคิด วาจา (คำพูด) และการกระทำของเขาจึงผิดหมด ตรงข้ามกับพระพุทธเจ้าทั้งหมด หากใครเชื่อเขาก็ต้องรับกรรมหรือโง่ตามเขาไปด้วย ความจริงคิดง่าย ๆ เพียงตั้งคำถามตนเองว่า ระหว่างพระพุทธเจ้ากับผู้พูดนั้น ๆ ซึ่งยังไม่ใช่พระพุทธเจ้า เราควรจะเชื่อใคร หรือผู้ที่คัดค้านพระพุทธเจ้านั้น เขาก็เท่ากับคัดค้านพระธรรม ซึ่งเท่ากับเขาไม่เคารพในพระพุทธเจ้า เท่ากับเขาเป็นคนนอกศาสนาพุทธโดยแท้ เพราะสิ่งที่เรากำลังพูด กำลังปฏิบัติกัน เราพูดกันถึงพุทธศาสนา (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จึงต้องยึดเอาคำสอน คำพูดของพระองค์เป็นหลักประพฤติและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้น ผลหรือมรรคผลย่อมไม่เกิด)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 07-07-2010 เมื่อ 08:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา