ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 06-07-2010, 08:10
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,889 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ข้อพิจารณา


เมื่อเราเอาหัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ข้อ คือ จงละชั่ว จงทำดี จงทำจิตให้ผ่องใสอยู่เสมอ กับหัวใจในการปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา ๓ ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา (อริยมรรค ๘) หรือปฏิบัติบูชา ๓ ข้อคือ ทาน ศีล ภาวนา มาพิจารณาโดยธรรม เราก็จะเห็นได้ด้วยปัญญาชัดว่า ธรรมทั้งหมดนี้เข้ากันได้อย่างเหมาะสม

๑. จงละความชั่วทั้งหมด ในการปฏิบัติฝ่ายสมมุติสงฆ์ก็คือต้องมีศีล ฝ่ายฆราวาสก็ต้องมีทานกับศีล ถ้าเราไปหาพระที่ดีทุกองค์ ท่านจะให้เรารับศีล มีศีลก่อนทุกครั้ง ก่อนจะเริ่มปฏิบัติ จะเริ่มพิธีอะไรก็ตามทางพุทธศาสนาแล้ว พระที่ดีท่านจะต้องเริ่มด้วย การให้เราทำจิตใจเราให้นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงให้เรารับศีล ให้เราตั้งใจ ตั้งเจตนาของเราในปัจจุบันนั้นว่า ข้าพเจ้าขอตั้งเจตนาที่จะงดเว้นที่จะไม่กระทำความชั่ว ๕ ประการ

หากผู้ใดไม่เข้าใจพิธีทางพุทธศาสนาก็จะคุยกัน ไม่สนใจที่จะน้อมจิตให้เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และตั้งเจตนาที่จะงดเว้นไม่กระทำชั่ว ๕ ประการ (รับศีล ๕) หากใครเข้าใจ เขาจะได้บุญ ๑๐๐% เต็ม เพราะจริยาหรือการตั้งใจให้เข้าถึงพระรัตนตรัย และศีล ๕ ข้อนั้น หากใจไม่ตั้งเจตนางดเว้นแล้ว มันก็ไม่นับเป็นศีล บุญก็ไม่เกิดกับใจ เพราะบุญ บาป อยู่ที่ใจ เกิดที่ใจ มิได้อยู่หรือเกิดนอกใจ ผู้ใดทำตามที่ข้าพเจ้าเขียนมานี้ได้ ผู้นั้นมีโอกาสพ้นนรกได้ตลอดกาล เพราะทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ ปฏิปทาหรือจริยาวัตรประจำจิตของผู้เป็นพระโสดาบันโดยตรง

ผู้ไม่เข้าใจก็จะทิ้งประโยชน์ที่ตนควรได้ไปเปล่า ๆ เพราะความไม่เข้าใจ (ความโง่) จัดว่าเป็นผู้ประมาทในความตาย เพราะเวลาย่อมไม่คอยใคร แต่ผมเองขอดัดแปลงว่า “ความตายและเวลาไม่คอยใคร”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา