คืนนั้นหลังเลิกพระกรรมฐาน คุณสมานและหลวงตา นั่งหน้าบูดคนหนึ่ง หน้าจืดคนหนึ่งอยู่เบาะด้านหน้า คุณภรรยานั่งหน้าหมองมาด้านหลัง คุณสมานขับรถมาได้เพียง ๑๐๐ เมตรจากบ้านสายลม
แกทนไม่ไหวระเบิดภาษาใจออกมาว่า
"พี่ก็รู้นะครับ ว่าผมเคารพหลวงพ่อแค่ไหน พี่ตอบผมหน่อยได้ไหม ว่าทำไมท่านทำกับผมอย่างนั้น"
กูนึกแล้ว ! เอ๊ย หลวงตานึกอยู่แล้วว่าแกต้องพูดแบบนั้น โธ่เอ๋ย แม่เจ้าประคุณภรรยายังผสานเสียงร้องไห้ ถามออกมาเสียงชัดเชียวว่า
"นั่นสิคะ พี่ เรารักท่าน ท่านน่าจะทราบ พี่เขาไม่เคยทุ่มน้ำใจให้พระองค์ไหนขนาดนี้ เมื่อไม่รับแล้วทำไมต้องฆ่ากันด้วย"
โอย...เอาเข้าไป ใครจะไปตอบได้ ลูกหลานเอย หลวงตาขณะนั้นก็คือคนธรรมดา หาความวิเศษอะไรไม่ได้ จึงต้องรีบนึกถึงพ่อ ช่วยจับใจจับปากลูกด้วย ถ้าตอบเขาไม่ได้วันนี้ พ่อคงจะไม่เป็นอะไร แต่ลูกจะขาดใจตายอยู่แล้ว ตอนนั้นในใจนึกเห็นภาพอู่ซ่อมรถชัดเจนในใจ จึงพูดออกไปตามภาพ
"คุณสมานใช้รถมากี่คัน"
"หลายคัน พี่ถามทำไม" เสียงแกไม่น่ารักเลย สะบัด ๆ บูด ๆ
"เคยใช้รถเก่าไหม"
"เคยสิพี่ ผมไม่ใช่คนรวยกับเขานี่ ที่พี่ถามมันเกี่ยวอะไรกับที่หลวงพ่อด่าผมด้วย"
ยิ่งกระแทกแดกดันคันหู แต่หลวงตากลับรุกต่อ
"รถเก่านี่ ถ้าจะเปลี่ยนสีใหม่ ต้องเอาสีเก่าออกก่อนใช่ไหม"
เงียบ !.................
"เขาต้องเอาลวดเหล็กมาฟาดเคาะสะเดาะสี เอาเกรียงเหล็กมาไถมาแทงให้สีหลุดใช่ไหม"
เงียบ !..................
"ถ้าสีเก่าพอกหนาน่าเกลียดมาก ก็ต้องเอาไฟช่วยเป่าเอากระดาษทรายหยาบขัด กระดาษทรายละเอียดขัด เอาสีพื้นใหม่โป๊ะโป๊วลงไป ขัดออกให้เรียบ"
"พี่ พูดต่อ พี่พูดต่อ" เอาแล้ว คุณสมานไม่รู้คิดอะไร ได้ขึ้นมา เสียงเริ่มใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาเชียว
"แล้วจึงลงสีใหม่ พ่นเคลือบจนสวยงามตามต้องการใช่ไหม คุณสมาน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-07-2009 เมื่อ 15:21
|