"เรื่องวันอัฐมีบูชาที่โยมเขาถามเมื่อครู่นี้ เกี่ยวเนื่องด้วยการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นความรอบคอบของพระอานนท์ ถ้าพระอานนท์ไม่สอบถามไว้ก่อน จะไม่มีใครรู้ว่า ควรจะจัดการกับพระสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อปรินิพพานแล้วอย่างไร
เรื่องนี้ต้องไปดูในมหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ให้นำรางเหล็ก ใส่น้ำมันหอมให้เต็ม แล้วนำสรีระของพระองค์ท่านห่อด้วยผ้าขาว...ซ้อนด้วยสำลี...ห่อด้วยผ้าขาว...ซ้อนด้วยสำลี ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ ๕๐๐ ชั้น แล้วใส่ลงในรางเหล็กที่เต็มไปด้วยน้ำมันหอม ยกขึ้นบนจิตกาธาน
เป็นความรอบคอบมากอีกอย่างหนึ่งที่ใส่ไว้ในรางเหล็ก เพราะถ้าเป็นคนทั่ว ๆ ไป เวลาเผากระดูกก็กระจัดกระจาย ถ้าเป็นเมรุทั่วไป ก็ไม่รู้กระดูกใครต่อกระดูกใครที่เหลือตกหล่นปนกันอยู่ แต่การเผาด้วยวิธีนี้ ต่อให้เผาคนอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า กระดูกหรืออัฐิธาตุก็ไม่กระจัดกระจายไปไหน เพราะอยู่ในรางเหล็ก
แต่ของพระพุทธเจ้าท่านพิเศษตรงที่ว่า ไฟไหม้แล้วเว้นเอาไว้ชั้นหนึ่ง ดังนั้น..พระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดก็เลยอยู่ในห่อผ้าขาวและสำลีชั้นสุดท้าย
จากการที่เผาพระพุทธสรีระภายใน ๗ วัน ก็เลยเป็นแบบอย่างที่เขายึดถือกันต่อ ๆ มาว่า เมื่อพระมรณภาพก็ควรจะเผา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:12
|