ปุจฉา วิสัชนา : หลวงปู่บุดดา ถาวโร
ปุจฉา : ทำไมหลวงปู่กราบพระบ่อย ๆ ครับ ?
วิสัชนา : กราบพระพุทธรูปนั้นแหละ ตื่นขึ้นมากราบ ๓ ครั้ง แล้วห่มผ้า แล้วไปอุ้มบาตร กลับมาก็กราบซะก่อน เวลาฉันก็กราบอีก ทำวัตรเช้าวัตรเย็นแล้วก็กราบ ทีนี้จิตก็เชื่องซี่ มันก็ไม่ไปอื่นซี่ มีงานให้มันทำก็ทำได้ ไม่มีงานทำก็ไม่ต้องทำซี่ มันก็พากันเที่ยวซี่
ปุจฉา : หลวงปู่ครับ สุนัขมันรู้ภาษาคนไหมครับ ?
วิสัชนา : มันรู้ แต่มันพูดไม่ได้เท่านั้นแหละ แต่พูดในใจ มันพูดรู้นะ ถ้ามองตามัน จิตใครมีธรรมมันก็เข้ามาหา มานอนด้วย ถ้าจิตใครไม่มีเมตตามันไม่เข้ามาหาหรอก มันกลัว มันมองตามันรู้นะ มันรู้สายตานะ
ปุจฉา : อยากให้หลวงปู่บอกหลักสูตรการทำจิตขณะบริจาคทานครับ
วิสัชนา : ก็นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ซี่ เข้าหลักสูตรนะ ถ้าลืมหลักสูตรแล้วอุทิศไปไม่ถูกหลัก มันเฉย ๆ มันเป็นโมหะแล้ว ถ้าอุทิศถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันพร้อมด้วยศีล ด้วยปัญญา ด้วยทานศีลภาวนา มันไม่พร้อมก็ไม่มีปัญญาน่ะซี่
ปุจฉา : หลวงปู่ครับ ฟังเทศน์กับฟังเทเป็นยังไงครับ ?
วิสัชนา : ฟังเทมันฟังไม่รู้เรื่องซี่! ฟังธรรมมันต้องทำไปด้วยซี่! เป็นพระโสดา สกิทาคา อรหันต์ได้ ฟังเท...พระเทศน์เสร็จ สาธุ...ไม่รู้เรื่อง เขาฟังเทศน์จะเอาแต่บุญ ไม่เอามรรคผลนี่
ปุจฉา : ทำกรรมฐานอย่างไรจะถูกครับ ?
วิสัชนา : ทำอย่างไหนก็ได้ ทำแล้วกิเลสระงับดับลงไปไม่กำเริบนั่นแหละถูก ทำแล้วข่มกิเลสได้ ฆ่ากิเลสตาย คายกิเลสหลุด ถูกทั้งนั้นแหละ