ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 09-04-2010, 18:11
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,889 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๔. “นั่นสิ รูปในนามอย่างนั้น เอ็งเห็นแล้ว เอ็งรักเคารพท่านหรือเปล่า”

ก็รับว่าเคารพ


๕. “แล้วในความรักและเคารพนั้น มันมีความโศกเศร้าเสียใจเจือปนอยู่ด้วยหรือเปล่า”

ตอบว่า "เปล่า"


๖. “นั่นแหละ เป็นความรักเคารพ ที่ไม่ได้เจือปนไปด้วยกิเลส เพราะไม่มีความเศร้าโศกเสียใจ” ก็คิดว่าก็เมื่อท่านไม่มีร่างกาย แล้วจะไปเศร้าโศกเสียใจกับกายท่านได้อย่างไร


๗. “แล้วอย่างนั้นจะเรียกว่าท่านตายได้หรือเปล่า”

ก็รับว่า "เปล่าตาย"


๘. “นั่นสิ ที่ตายนั้นเป็นร่างกาย เป็นธาตุ ๔ ไม่ใช่ท่านตาย เอ็งก็ยังพบท่านเห็นท่านได้ในสภาวะจิตพบจิต”


๙. “ถ้าอารมณ์ในขณะนั้นมีกิเลส เอ็งก็พบท่านไม่ได้ ความรักเคารพอย่างนี้สิ จึงจะเป็นของดี จิตไม่เศร้าหมอง มีสิทธิ์ที่จะไปพระนิพพานได้ แต่ความรักเคารพอาลัยโศกเศร้าเสียใจในขันธ์ ๕ ของพ่อนั้น เป็นของไม่ดี เป็นกิเลส มีความเศร้าหมองของจิต ตายแล้วไปพระนิพพานไม่ได้”


๑๐. “พยายามเข้าสิ ตัดความอาลัยเศร้าโศกเสียใจในขันธ์ ๕ ของพ่อลงเสียให้ได้ พ่อในสมัยที่ยังทรงชีวิตอยู่ เป็นผู้ไม่หวังในขันธ์ ๕ เพียงใด ขอให้เอ็งจงหมั่นทำจิตให้เป็นผู้ไม่หวังในขันธ์ ๕ เพียงนั้น ไม่ว่าขันธ์ ๕ ของพ่อหรือขันธ์ ๕ ของใคร หรือแม้แต่ขันธ์ ๕ ตัวเอง เพราะในที่สุดของขันธ์ ๕ คือความตายทุกรูปทุกนาม ความจริงมันเป็นอย่างนี้ แล้วจะไปหวังขันธ์ ๕ ทำไมกัน”


๑๑. “รัก รักให้เป็น รักพ่ออย่างพระพุทธเจ้าสิ รักอย่างพระอริยสงฆ์ในพุทธกาลสิ จิตจะได้ผ่องใส ขอให้คิดดี ๆ” (ธรรมจุดนี้ ผมขอให้หัวเรื่องว่า รักเป็นกับรักไม่เป็น)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา