พาใจกลับบ้าน (๔)
ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เราคิดว่าเรามี สิ่งที่เราคิดว่าเราพร้อม สิ่งที่เรากำลังวิ่งหาอยู่นี้
เราคิดว่า ไปถึงตรงนั้นแล้ว เราจะมีความสุข แต่ไม่มีใครมารับประกันว่า เราไปถึงตรงนั้นแล้ว เราจะมีความสุข
เป็นเพียงแค่ความคิด ที่เราคิดขึ้นมาเองว่า ถ้าเราไปถึงจุดนั้นจุดนี้แล้ว เราจะมีความสุข
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เราทำงานวันหนึ่ง ๘ ชั่วโมง ๑๐ ชั่วโมง ๑๒ ชั่วโมง เพื่ออะไร ?
เพื่อเราคิดว่า วันหนึ่งเราจะมีเงินเก็บมาก ๆ ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ สวยงาม สะดวกสบาย
มีรถคันโต นั่งแล้วรู้สึกสบาย นุ่มนวล ได้ไปเที่ยวรอบโลก ได้ไปในที่ซึ่งเราไม่เคยไป
ได้ไปรับประทานอาหารที่ราคาแพง ที่เราไม่เคยได้รับประทาน ได้ไปเห็นอะไรต่าง ๆ นานา ที่เราอยากเห็น
อันนี้ก็คือความคิดที่เราคิดขึ้นมา ก็มีความคิดเป็นตัวตั้ง แล้วเราก็ปฏิบัติประพฤติตามความคิดนั้นไป
เมื่อเราไปถึงจุดนั้นแล้ว บางทีความจริงกับความคิดไม่เหมือนกัน
บางครั้งหลายคนทุกข์แสนสาหัสกว่าจะไปถึงจุดที่ตัวเองคิดไว้ บางคนบางท่านนั้นก็ไปไม่ถึงจุดที่ตัวเองคิดไว้ก็มี
แต่ก็ไม่เคยหันกลับมามองว่า ทำไมเราถึงคิดเช่นนั้น ? ทำไมเราถึงอยากเช่นนั้น ? ทำไมเราถึงเป็นเช่นนั้น ?
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
|