ด้านธรรมะสำหรับชีวิตและการงาน
ท่านเมตตาให้ธรรมะเป็นข้อคิดเตือนใจแก่คณะผู้ใหญ่ผู้น้อยของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มากราบเยี่ยมท่านเสมอ ๆ ให้รู้จักนำศีลนำธรรรมมาเป็นหลักยึดเหนี่ยวในจิตใจ ไม่ให้เผลอเพลินลืมเนื้อลืมตัว
อย่าบ้า...ลาภยศสรรเสริญ
คราวหนึ่งท่านแสดงธรรมอย่างเป็นกันเองแบบลูกหลาน โปรดคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมกับนักธุรกิจจำนวนเกือบ ๕๐ คน ดังนี้
"นี่มาจากทางไหนกันบ้างนี่ ?"
"มาจาก...มาดูงานทางภาคอีสาน ก็เลยมากราบครับ"
"เหรอ..มาดูงานเหรอ ? เคยมาวัดป่านบ้านตาดคนเดียวยังล่ะ ? เหล่านี้เคยมาแล้วยัง ?"
"ครั้งแรก..ไม่เคยมาเลยครับ"
"ไม่เคยมา แต่โรงลิเกละคร ระบำรำโป๊ พวกบ้า ๆ นั่นไปทั้งนั้นใช่ไหม ? ..หือ ?"
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเลวที่สุดนะ มองไม่ทัน ถ้าเป็นหมา จับหางดึงไว้ หางขาดยังบืน (คืบคลาน) ไปได้นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ถ้าเป็นเรื่องศีลเรื่องธรรม นี่ก็เอาไสเข้าไปเท่าไรก็ไม่ยอมไปนะ เวลานี้โลกกำลังสกปรกมาก สกปรกจริง ๆ สายตาของธรรมดูไม่ได้นะเวลานี้ แต่กิเลสมัน แหม..มันเพลิน มันไม่รู้จักเป็นจักตายนะ..
เรื่องมั่วสุมกับกิเลส ความโกรธ ราคะ ตัณหา นี่ตัวสำคัญ สกปรก รกรุงรัง ก่อฟืนก่อไฟเผาไหม้โลกคือตัวเหล่านี้เอง แต่โลกชอบกันมาก สุดที่จะแยกออก ไปเพื่อศีลเพื่อธรรม มันไม่อยากแยกนะ มันดีดมันดิ้นอยู่นี่
พระพุทธเจ้ากี่พระองค์มาตรัสรู้ ลากไปเท่าไรมันไม่ยอมไป มันสู้ส้วมสู้ถานไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้นนะ สวรรค์นิพพานไม่ได้เลิศเลอยิ่งกว่าส้วมกว่าถาน เวลานี้กิเลสมันดึงลงไปขนาดนั้นนะ ให้เพลินในส้วมในถานไป มันไม่ค่อยเห็นเรื่องมรรคเรื่องผล เรื่องคุณงามความดีที่เลิศเลอยิ่งกว่านี้ ขนาดไหนมันไม่ยอมให้เห็นนะ..กิเลส เราไม่ได้ตำหนิใครนะ กิเลสมันอยู่ในหัวใจคน เราก็ตำหนิเข้าไป มันก็ต้องโดนคนจนได้นั่นแหละ จะว่ายังไง ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 23:27
|