แล้วคราวนี้อากาศยามเช้า ตอนนั้นเป็นฤดูหนาว ช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน หมอกลงแล้วก็มีแสงแดดลอดใบไม้มาเป็นลำ ๆ ดูสวยมาก ดันไปนึกถึงเพลงที่เคยชอบสมัยฆราวาส "ดวงตะวันลับทิวแมกไม้ ใจพี่ก็หาย..หายลับไปกับตะวัน..ฯลฯ"
ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเมตตาถีบตูมเข้าเต็มหลัง..! หัวทิ่มลงไปในลำห้วย เปียกหัวถึงตีนเลย แล้วอากาศกลางป่าหนาว ๆ ด้วย เดินสั่นแหง็ก ๆ อย่างกับมาลาเรียกินออกมา ต้องมาอาศัยบ้านกะเหรี่ยงเขาตากผ้าอยู่ครึ่งค่อนวันกว่าที่จะแห้ง..!
จะได้เห็นว่ากำลังใจของเราจริง ๆ นั้นเชื่อไม่ได้ ถ้ามีที่ให้กลัว มีที่ให้เกรง ก็จะภาวนาเอง เพราะว่ากลัวตาย แต่พอรู้สึกว่ากูไม่ตายแล้ว เพราะว่าใกล้ชาวบ้านแล้ว ดันหลุดจากการภาวนาเองเฉยเลย..!
เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายต้องระวังให้ดี ขณะเดียวกัน ทำงานก็ให้สังเกตตัวเองด้วยว่าเครียดหรือยัง ? ถ้าประเภทปวดหัว วิ่งไปหาพาราฯ บ้าง ยาแก้แพ้บ้าง หรือว่าเสียงดัง "วีน" ใส่เพื่อน รู้ไว้เลยว่าเครียดแล้ว ยอมรับเสียแต่โดยดี รีบภาวนาตอนนั้นยังทัน แต่ถ้าหากว่าออกปาก หรือว่าหลุดมือหลุดไม้ไปแล้ว เอาคืนไม่ทัน มักจะพังไปเป็นเดือน..! จึงเป็นเรื่องที่พวกเราควรจะรับรู้เอาไว้ว่า ถ้าเครียดแปลว่ากำลังสมาธิยังไม่พอใช้งาน ต้องเร่งรัดตนเองมากขึ้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2024 เมื่อ 02:52
|