ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 02-05-2024, 22:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,960 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประการหนึ่งก็คือ สมัยที่กระผม/อาตมภาพเรียนวิชาพระวินัยปิฎก มีการตั้งคำถามว่า "ภิกษุรูปหนึ่งออกบิณฑบาต เจอเด็กหญิงนอนอยู่ เกิดจิตกำหนัด ใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอดของเด็กหญิงนั้น ทำเด็กหญิงนั้นตาย ภิกษุนั้นต้องอาบัติอะไร ?"

เรื่องนี้เราต้องตั้งสติ วินิจฉัยเสียก่อน เนื่องเพราะว่าเป็นเรื่องสมมติ ถ้าถึงขนาดใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอดของเด็ก แล้วทำให้เด็กตาย ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้น..อันดับแรก ท่านกระทำไปด้วยจิตกำหนัด ก็แปลว่า
สัมผัสถูกต้องกายหญิง แม้เด็กทารกแรกเกิด ก็ต้องอาบัติสังฆาทิเสส นี่เป็นการต้องอาบัติ คือศีลขาด ในวาระที่หนึ่ง

การต้องอาบัติวาระที่สองก็คือ
ทำให้เด็กหญิงนั้นตาย ปกติมนุษย์ให้ตายนั้น ต้องอาบัติปาราชิก แต่เนื่องจากว่าครั้งนี้ไม่มีเจตนา เมื่อเกิดจิตกำหนัดแล้ว ก็อาจจะกระทำรุนแรงไป จนเด็กขาดใจตาย ในเมื่อไม่มีเจตนา การต้องอาบัติปาราชิกจึงไม่นับ มานับว่าต้องอาบัติถุลลัจจัย ซึ่งเป็นอาบัติหนักที่รองลงมาจากอาบัติปาราชิก ลักษณะคล้ายกับภิกษุทิ้งของหนักข้ามกำแพงแล้วไปทับถูกคนตาย ทำให้บุคคลตายโดยไม่เจตนา ไม่ต้องอาบัติปาราชิก หากแต่ว่าต้องอาบัติถุลลัจจัยซึ่งเป็นอาบัติหนัก รองลงมาแทน

ดังนั้น..ภิกษุรูปนั้นจึงต้องอาบัติสองวาระด้วยกัน วาระแรก คือกระทำโดยจิตกำหนัด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส วาระที่สอง ทำให้เด็กนั้นตาย แต่เนื่องจากว่าไม่มีเจตนา ต้องอาบัติถุลลัจจัย จึงต้องอธิบายขยายความให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คาดว่าจะต้องโดนหักคะแนนไปบางส่วนอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2024 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา