สมัยที่อาตมภาพเป็นทหาร ช่วงวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ เพื่อนจะขอให้เข้าเวรแทน เหตุผลของเขาก็คือ "มึงไม่มีแฟน มึงไม่รู้หรอก..!" เพื่อนขอร้องให้เรารับเวรแทน ได้ชั่วโมงละ ๗๐ บาท สมัยนั้นทองคำบาทละ ๒,๐๐๐ บาท ดังนั้น..ค่าเวรแพงมากเลยนะ..! แล้วยังเป็นหนี้บุญคุณกันอีกด้วย "คราวหน้ากูขอร้องอะไร ถ้ามึงปฏิเสธ กูจะไม่เข้าเวรแทนอีก..!"
เพราะฉะนั้น..อาตมาก็เลยกลายเป็นทหารที่ผิดปกติ ก็คือในยุคนั้นส่วนใหญ่ทหารต้องกลับบ้านไปขอเงินทางบ้านใช้ แต่อาตมานี่หอบเงินกลับบ้าน ลองคิดดูชั่วโมงละ ๗๐ บาท ถ้าหากว่าควงเวรหนึ่งคืน ๖ ชั่วโมง ก็ล่อไป ๔๐๐ กว่าบาทแล้ว แล้วช่วงสงกรานต์แค่วันเดียวเสียเมื่อไร ช่วงปีใหม่อย่างน้อยก็วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๑ มกราคม อย่างน้อยก็สองวัน ช่วงลอยกระทงถ้าติดเสาร์อาทิตย์ด้วยก็ถึงสามวัน ช่วงสงกรานต์นี่สามวันแน่นอนอยู่แล้ว เข้าเวรกันชนิดลืมตายไปเลย..!
ภาษาทหารมีคำว่า "ดองเวร" ดองเวรนี่คือโดนลงโทษ ก็คือลงโทษให้ไปเข้าเวร แต่อย่างของอาตมานี่เขาเรียกว่า "ดองตัวเอง" รับจ้างเข้าเวร บางทีครึ่งค่อนเดือนเจ้านายไม่ได้เห็นหน้าหรอก เพราะว่าเข้าเวรไปเรื่อย เพราะฉะนั้น..ในช่วงของเทศกาลต่าง ๆ ก็เลยกลายเป็นว่าเป็นเวลาที่เงินสะพัด
แต่ขณะเดียวกันก็มีพวกเมาแล้วขับ ทำให้เจ็บ ให้ตายกันทุกปี ปีละมาก ๆ เดี๋ยวเรามาดูยอดปีนี้ว่าพอพ้นวันที่ ๑๖ ซึ่งเป็นวันหยุดไปแล้ว ช่วง ๑๒ - ๑๖ เมษายน รวมห้าวันจะกี่ศพ ? ส่วนที่บาดเจ็บไม่หนี ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ ราย..!
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครไม่ประมาทอย่างหนึ่ง แล้วก็ใครมีวัตถุมงคลดีอีกอย่างหนึ่ง วันก่อนเขามีคลิป เกือบหลับแต่กลับมาได้ รถกระบะขับชิดขวา อยู่ ๆ ก็ปาดซ้าย ๆ ๆ ไปสามเลน ตกลงข้างทาง แล้วก็หักขวับกลับขึ้นมา แสดงว่าตอนเริ่มตกข้างทางนี่สะเทือนแล้วคนขับตื่น..! ปกติแล้วมักจะตื่นตอนชนแล้ว คราวนี้ต้องบอกว่าดวงดีหรือไม่ก็วัตถุมงคลดี พอเริ่มจะตกถนนก็สะดุ้งตื่น จึงหักรถกลับมาได้
เรื่องของการขับรถ เราระมัดระวังไม่ชนคนอื่น ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่ชนเรานะ บางคนระวังทั้งชีวิต ทะนุถนอมรักรถสุด ๆ ที่ไหนได้..คนอื่นมาทิ่มเสียบุบไปครึ่งคัน..! เพราะฉะนั้น..ประเทศลาวนี่พอถึงเวลาเขาสอนขับรถ เขาสอนง่าย ๆ ข้อที่ ๑ เจ้าอย่าขับไปตำผู้อื่น ข้อที่ ๒ เจ้าอย่าให้ผู้อื่นขับมาตำเจ้า ข้อที่ ๓ เจ้าและผู้อื่นอย่าขับไปตำกัน แค่นั้นแหละ..ถ้าใครทำได้ก็เป็นอันว่าขับรถได้ ก็คือเราอย่าขับไปชนคนอื่น อย่าให้คนอื่นขับมาชนเรา และเรากับคนอื่นอย่าขับไปชนกัน ก็มีอยู่แค่นั้นเอง
คราวนี้ของพวกเรามาอยู่วัด เป็นการประกันความเสี่ยงอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่ต้องไปตะลอน ๆ บนท้องถนน วันนี้พวกใจร้อนเริ่มกลับบ้าน อุบัติเหตุจะเยอะขึ้น พรุ่งนี้พวกประเภทเที่ยวเพลินจะเริ่มแห่กันกลับ ก็จะยิ่งเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
บางวันอาตมาเลิกงานจากที่นี่ ต้องไปงานอื่นต่อ กว่าจะถึงที่หมายเจออุบัติเหตุ ๔ - ๕ จุด บางจุด ๓ - ๔ คันเลย..! ก็ได้แต่ระวังแล้วก็ระแวง ระวังก็คืออย่าให้เป็นอย่างนั้น ระแวงก็คือคนอื่นจะมาจิ้มเราหรือเปล่า ?
ถ้าถามว่าเรื่องพวกนี้แก้ไขได้ไหม ? ถ้าเป็นวาระกรรมเก่าก็แก้ไขไม่ได้ ถามว่าวาระกรรมอะไร ? ถ้าถึงเจ็บถึงตายนี่ก็คือกรรมปาณาติบาตเก่า ถ้าไม่เป็นอะไรแต่ทรัพย์สินเสียหายก็คือกรรมอทินนาทาน
ก็เลยกลายเป็นว่าขึ้นรถแต่ละที มีหลวงพ่อกี่องค์ก็ต้องปลุกมาให้หมด "ผมหลับได้ แต่หลวงพ่อห้ามหลับนะครับ ถ้าหลวงพ่อหลับนี่ผมแย่แน่..!" ว่าอย่างนั้น..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันสงกรานต์ ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ - วันอังคารที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2024 เมื่อ 20:13
|