ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 31-03-2024, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,502 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับบรรดามหาเปรียญของวัดเรา ที่สอบผ่านประโยค ๓ ในปีนี้ ถือว่าท่านทั้งหลายหาสมณศักดิ์ให้กับตัวเอง ด้วยความสามารถของตนเองอย่างแท้จริง

เนื่องเพราะว่าประกาศนียบัตรเปรียญธรรมตั้งแต่ ๓ ประโยคขึ้นไป ก็ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นกัน และโดยเฉพาะมีราคาเหนือกว่าพระฐานานุกรมของเจ้าคุณชั้นสามัญเสียอีก แล้วถ้าหากว่าเป็นประโยค ๔ ขึ้นไป เราก็ยังนั่งเหนือบรรดา
พระครูสังฆรักษ์ พระครูสมุห์ พระครูใบฎีกาเหล่านั้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ฐานานุกรมไม่มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ได้เปรียญธรรม ๓ ประโยคขึ้นไป ยกเว้นระดับพระครูปลัดของชั้นราชขึ้นไป ถึงพอจะมีราคาบ้าง

เรื่องของการเรียนนั้น ถ้าหากว่ายังมีไฟอยู่ ขอให้รีบเรียนไว้ก่อน กระผม/อาตมภาพเองต่อต้านในเรื่องของการเรียนมาตั้งแต่ต้น เนื่องเพราะว่าอันดับแรกเลย การเรียนนักธรรมแค่ชั้นตรี ก็ปฏิเสธเรื่องของพรหมของเทวดาแล้ว ทั้ง ๆ ที่เนื้อหามีอยู่เต็มพระไตรปิฎก ไม่ว่าจะเป็นในเทวตาสังยุตต์ พรหมสังยุตต์ของสังยุตตนิกาย หรือว่าในวิมานวัตถุ ในเปตวัตถุของขุททกนิกาย

แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็พยายามที่จะอ้างว่าเป็นบุคลาธิษฐาน คือเรื่องที่บุคคลที่ยกขึ้นมาเปรียบเทียบ อย่างเช่นว่าพรหมน่าจะเป็นศาสดาเจ้าลัทธิ ลัทธิใดลัทธิหนึ่งที่สำเร็จฌานสมาบัติ เพราะว่าฌานสมาบัติเป็นคุณสมบัติของพรหม ฟังเขาตีความแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ว่า "มันบ้า..!" ก็ในเมื่อฌานสมาบัติเป็นคุณสมบัติของพรหม ก็แปลว่าพรหมต้องมี แต่มึงดันบอกว่าไม่มี..!

แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "แกไปเรียนไว้หน่อย เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพระปริยัติ หรือพระนักเรียนมักจะดูถูกพระปฏิบัติว่าโง่ แกไปเรียนให้เขารู้ว่าแกเก่งกว่า..!" กระผม/อาตมภาพเอง พอจบนักธรรมชั้นเอก ท่านก็ถามว่าจะไปเรียนที่กรุงเทพฯ หรือไม่ ท่านจะได้ส่งไปสำนักของเพื่อน กระผม/อาตมภาพกราบเรียนว่า "ถ้าผมห่างหลวงพ่อ ผมต้องเลวแน่เลยครับ เพราะฉะนั้น..ขอไม่ไปก่อนครับ"

เพราะว่าตอนนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ. ๙, Ph.D.) วัดพิชยญาติการาม ท่านยังเป็นพระราชปริยัติโมลีใหม่ ๆ ท่านเดินทางไปหาพระนักเรียนเพื่อจะเอาไปเข้าสำนัก ตอนนั้นท่านยังอยู่วัดชนะสงคราม แล้วเห็นผลการสอบนักธรรมชั้นเอกของกระผม/อาตมภาพ ท่านก็มาขอตัวกับหลวงพ่อฤๅษีฯ แล้วกระผม/อาตมภาพปฏิเสธไป

จนกระทั่งมาเป็นเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ เขากำหนดว่าต้องไปเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ก็เลยต้องไปเรียนตามคำสั่งและตามหน้าที่ มาเจอตอนนั้น ท่านเป็นเจ้าคุณพระธรรมโมลีอยู่วัดพิชยญาติการามแล้ว ท่านก็หัวเราะ บอกว่า "ท้ายที่สุดก็ต้องมาเป็นลูกศิษย์ผมจนได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2024 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา