เพียงแต่ว่าทางวัดท่าขนุนนั้น มีพระคู่สวดที่ฝึกซ้อมเอาไว้เป็นจำนวนมาก ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสวดได้ แต่ว่าพระอุปัชฌาย์อย่างกระผม/อาตมภาพ น่าจะต้องเข้าสมาธิกันยาว ๆ นับสิบชั่วโมง แต่ตอนคลายสมาธิออกมา อาจจะมีการครางโอย ๆ ถึงขนาดลุกไม่ไหวเลยก็เป็นได้ แต่ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ก่อนที่จะสิ้นชีวิต ขอทำงานใหญ่ ๆ ถวายแก่สถาบันหลักของประเทศของเราสักครั้งหนึ่ง ซึ่งงานแบบนี้ไม่ใช่จะหากันได้ง่าย ๆ
เนื่องเพราะว่าบุคคลที่มีโอกาสได้ชาติกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ เป็นบุรุษ มีอาการครบ ๓๒ อยู่มาจนอายุกาลผ่านวัยได้ ๒๐ ปีขึ้นไป มีศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา ถึงขนาดเข้ามาขอบรรพชาอุปสมบทนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องสั่งสมบุญกุศลมาในระดับที่มากมายมหาศาล กว่าที่จะมีสมัยโอกาสได้อย่างนี้ จึงเป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้ว ท่านใดจะร่วมบุญอุปสมบทก็เข้าไปดูในกระทู้ทำบุญอุปสมบทหมู่ฟรีปีละ ๔ ครั้งของวัดท่าขนุน สามารถที่จะโอนปัจจัยทำบุญร่วมกันได้ที่นั่น
หลังจากที่ฉันเพลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปวัดเดิมบาง (คงคาราม) หมู่ที่ ๑ ตำบลเดิมบางนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร่วมพิธีเทวาภิเษกรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณหน้าทองคำ ซึ่งเจ้าพิธีในที่นี้คือครูบาวชิริล ภทฺทมุนี ซึ่งเป็นพระรุ่นใหม่ไฟแรง มาช่วยเหลืองานท่านอาจารย์ปุญญพัฒน์ (พระครูสุวรรณปุญญารักษ์) เจ้าคณะตำบลเดิมบาง เจ้าอาวาสวัดเดิมบางอยู่ในปัจจุบันนี้
เมื่อไปถึง ท่านก็มากราบรายงานตัว แถมยังยกย่องกระผม/อาตมภาพเสียจนเลิศลอย ต้องบอกกับท่านว่า "เบา ๆ หน่อย เดี๋ยวคนอื่นจะหมั่นไส้เอา" แล้วก็ทักทายกับพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็คือหลวงพ่อบุญค้ำ (พระครูสุวรรณธรรมาภิรักษ์) วัดชัยเภรีย์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะบอกสมณศักดิ์ของท่านผิดพลาดหรือเปล่า ?
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็นิมนต์ไปถ่ายรูปหมู่เพื่อทำประชาสัมพันธ์ พอเหมาะพอดีกับหลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) หรือท่านเจ้าคุณอาจารย์หลวงพ่อเณร วัดศรีสุดาราม เดินทางมาถึงพอดี กระผม/อาตมภาพถอดหน้ากาก กราบรายงานตัว ท่านก็จำได้ว่าเป็น "อาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน" เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น เรียนปริญญาเอกสาขาการจัดการเชิงพุทธ ในนามห้องเรียนวัดศรีสุดารามของท่านนั่นเอง เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เข้าที่นั่ง หลวงพ่อเณรได้เมตตาเป็นประธานจุดเทียนชัย พวกเราทั้งหลายก็ภาวนากันตามอัธยาศัย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2024 เมื่อ 03:20
|