หรือว่าพี่น้องม้งทั้งหลาย กระผม/อาตมภาพเข้าไปสนับสนุนให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น นำเอาพืชผักผลไม้ที่ตนเองปลูกไว้ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงงานปีใหม่ม้ง ให้นำเอาชุดม้งสวย ๆ มาให้นักท่องเที่ยวเช่าเพื่อแต่งตัวถ่ายรูป ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา พี่น้องม้งก็แต่งตัวให้กับนักท่องเที่ยวเสียเต็มที่ แล้วก็ไม่เก็บเงินค่าเช่าชุดเลย..! ถึงเวลาก็มอบพืชผักผลไม้ฟรีให้คนละถุงใหญ่ ๆ ประมาณ ๒๐ กิโลกรัมบ้าง ๒๕ กิโลกรัมบ้าง..!
ครั้นเข้าไปสอบถามว่า "ทำไมไม่ให้เช่า ? ทำไมถึงไม่ขาย ?" พี่น้องม้งบอกว่า "ธรรมเนียมของคนม้งนั้น ผู้ที่มาถึงบ้านคือแขกบ้านแขกเมือง เราจะไปเอาเงินของแขกไม่ได้..!" ถ้าท่านทั้งหลายเข้าใจตรงนี้ ก็จะหันไปสนับสนุนและพัฒนาในด้านอื่น ไม่เช่นนั้นแล้วเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะไปได้
กระผม/อาตมภาพจึงต้องไปสนับสนุนการแสดงต่าง ๆ ของพี่น้องชาวม้งแทน หาเวทีให้เขามีโอกาสได้แสดง แล้วก็รับรางวัลต่าง ๆ ไป ทำให้คนเห็นว่ายังมีวัฒนธรรมม้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ ยังมีการแสดงที่สนุกสนานรื่นเริงเหล่านี้อยู่ เป็นต้น ถ้าเราไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง ไม่รู้ในพื้นฐานของแบบธรรมเนียมประเพณีเหล่านี้ เราก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาเขาทั้งหลายเหล่านั้นได้เลย
ในขณะเดียวกัน การทำงานของท่านทั้งหลาย ก็ต้องไม่ลืมหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าถ้าท่านไม่มีความอดทน ไม่มีความพากเพียร ท่านก็ไม่สามารถที่จะทำงานให้สำเร็จลงได้ ถ้าท่านไม่มีความเมตตา โดยเฉพาะไม่มีหัวใจพระโพธิสัตว์ ท่านก็จะตัดช่องน้อยเฉพาะตัว ไม่คิดจะช่วยเหลือสังคม ทั้ง ๆ ที่สังคมรอบข้างนั้น ให้การสนับสนุนสถาบันวัดของเรามาโดยตลอด
และโดยเฉพาะต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการ โรงเรียน หรือว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พูดง่าย ๆ ว่า ถ้ามีเครือข่าย เราก็ช่วยกันผลัก ช่วยกันดัน ไม่ต้องเหนื่อยยากอยู่คนเดียว ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายตั้งใจทำงานพัฒนาชุมชน ก็ต้องยึดหลักการเหล่านี้เอาไว้ โดยเฉพาะความอดทนอดกลั้น เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระบรมราโชวาทเอาไว้ ท่านก็จะสามารถทำงานด้านพัฒนาสังคม ได้สมกับบทบาทของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
โดยเฉพาะต้องนำเอาพระธรรมวินัย คือศีลพระ มาเป็นกรอบในการทำงาน ถ้าเราตีกรอบตนเองด้วยศีล เราก็จะไม่มีข้อด่างพร้อยให้เป็นที่ตำหนิของชาวบ้านเขาได้ เรามีหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เป็นเครื่องในการทำงาน เราก็จะสามารถที่จะทำได้อย่างคล่องตัวทุกงาน
โดยเฉพาะหลักของสังคหวัตถุทั้ง ๔ ก็คือทาน มีการให้ ปิยวาจา พูดดีกับเขาทั้งหลายเหล่านั้น อัตถจริยา ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเขา ไม่ใช่เป็นประโยชน์ต่อเรา และสมานัตตตา มีความพยายามทำเรื่องทั้งหลายเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ปีแล้วปีเล่า ต่อหน้าทำอย่างไร ลับหลังก็ทำอย่างนั้น ท่านจึงจะสามารถทำงานทางพระพุทธศาสนา ให้สมกับบทบาทของพระสงฆ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้ โดยเฉพาะเราอาศัยการทำงานเป็นการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของตนเองไปด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2024 เมื่อ 01:36
|