ตอนค่ำมีขบวนพระไทยใหญ่มาจากเมืองโมกก (เมืองโคก) พาบรรดาสาว ๆ มางานแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่ย่างกุ้ง แล้วแวะมาทำบุญด้วย สาว ๆ เขาแต่งตัวเต็มยศ ประดับเครื่องเงินกันเต็มที่ อาตมาต้องใช้ถึง ๕-๖ ภาษา กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่อง บอกกับเขาว่าทางดอยอ่างขางของไทยมีพี่น้องเขาอยู่กันมาก…
พวกเขาสอบถามกันใหญ่ว่าพี่น้องของเขาอยู่กันอย่างไร ? อาตมาบอกว่าทำงานอยู่กับโครงการหลวง ในหลวงจัดพื้นที่ให้อยู่เป็นหมู่บ้านโดยเฉพาะ พวกเราเรียกเขาว่า “ดาระอั้ง” พอได้ยินดังนั้น ทั้งพระทั้งฆราวาสต่างแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า เขาว่าพวกพม่าไม่ให้เกียรติพวกเขาแบบนั้น มักเรียกเขาอย่างดูถูกว่า “ปะหล่อง”…
คณะแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยใหญ่ มาจากเมืองโมกก
ทุกคนย้ำนักย้ำหนาว่า ถ้าผ่านไปทางโมกกให้แวะเยี่ยมพวกเขาบ้าง อย่าลืมว่าต่างก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เพียงแต่ห่างกันจนไปมาหาสู่กันไม่ถูกแล้ว… จากนั้นเป็นการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก อาตมาบอกกับพวกเขาว่า ถ้าจะไปเมืองไทยให้เข้าทางแม่สายจะใกล้กว่า ถ้าไปทางด่านเจดีย์แบบอาตมา มันจะไกลโดยใช่เหตุ อาตมาจดที่อยู่ที่เกาะพระฤๅษีเป็นภาษาอังกฤษให้แก่พวกเขาด้วย…
บรรดาไทยใหญ่ทั้งหลายลากลับกันไปหมดแล้ว อาตมากับท่านนาวินสนทนากับท่านอาจารย์ปัญญาสามิ จนเกือบห้าทุ่มจึงลากลับไปพักผ่อน ท่านกุสะละ ท่านกุมาระ ท่านพร หลับกรนแข่งกัน เจ้าโตกับหนุ่มเจนอนอยู่อีกมุมหนึ่ง ไม่เห็นโซยุนท์กับวินจี คงจะไปนอนเฝ้ารถอยู่ด้วยกัน อาตมาส่งใจขึ้นกราบพระแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว…
คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2012 เมื่อ 16:27
|