อย่างของเราวันนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่จำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนในงานประจำปีระบุมา รายรับ ๔๐,๐๐๐ กว่าบาท แต่รายจ่ายเบื้องต้นของผม ๓๐๐,๐๐๐ บาทไปแล้ว..! ของวัดเรานี่อยู่ในลักษณะอย่างนี้มาตลอด เรื่องรายรับกับรายจ่ายไม่ต้องไปพูดถึง เพราะว่าที่เราจัดก็คือหวังผลทางด้านการรักษาวัฒนธรรมประเพณี ตลอดจนกระทั่งเป็นเวทีแสดงออกของเด็ก ๆ เพราะฉะนั้น..ประเภทหมดเท่าไรก็ไม่ว่า เราไม่คำนึงถึงรายรับ..!
แล้วระยะเวลาแค่นี้ในระดับเจ้าคณะอำเภอก็อนุญาตได้แล้ว แต่ถ้าหากว่ามี ๕ วัน ๗ วัน ๙ วัน ก็ต้องว่ากันขึ้นไปตามลำดับ ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าเราศึกษาเอาไว้บ้าง ถึงเวลารุ่นน้องถามก็ยังตอบได้ หรือไม่ถ้าญาติโยมสงสัยก็ตอบได้ หรือถ้าเจอเหตุการณ์ซึ่งหน้าในลักษณะที่ผู้อื่นทำผิด ก็ยังรู้ว่าจะต้องลงโทษเขาในลักษณะอย่างไร
คณะสงฆ์ของเรา จะว่าไปแล้วมีความอะลุ้มอล่วยมาก เพราะว่าการลงโทษนั้น เริ่มตั้งแต่ตำหนิโทษ ภาคทัณฑ์ ให้ออก ให้ออกเขาก็ไปสังกัดที่อื่นอีก แล้วก็นิคหกรรม ก็คือให้สึก ในเมื่อมีการลงโทษตามระดับชั้น แล้วสูงสุดก็คือแค่สึก พวกคนหน้าด้านเขาไม่กลัวกันหรอก..!
กระผม/อาตมภาพยังไปนึกถึงสมัยก่อนที่มีการสักหน้า แต่สมัยนี้คาดว่าสักไป เขาก็ไปเอาเลเซอร์ลบ ก็ต้องทำอย่างที่พระเถระท่านปรารภไว้ในที่ประชุมนั่นแหละ "สู้กันจนตายไปทีละรุ่น พยายามให้ศาสนาของเราเสียหายให้น้อยที่สุดก็แล้วกัน..!"
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2024 เมื่อ 03:10
|