วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงบ่ายกระผม/อาตมภาพเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ แล้วมีปัญหาที่น่าสนใจที่พวกเราควรจะได้ทราบเอาไว้
ก็คือว่าพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม หัวหน้าพระวินยาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ท่านไปจับบุคคลซึ่งได้รับแจ้งว่า อาจจะเป็นผู้ที่ปลอมตัวเป็นพระภิกษุ แล้วปรากฏว่าบุคคลนั้นมีแค่ฉายาบัตรใบเดียว เมื่อติดต่อไปทางต้นสังกัด เจ้าอาวาสท่านก็ยืนยันว่า ออกจากวัดไปสองปีแล้ว ไม่ยอมกลับวัด
คำว่า ฉายาบัตรนั้น เป็นเอกสารที่พระอุปัชฌาย์ออกให้ เพื่อยืนยันว่าได้บวชบุคคลนี้ไปจริง ถ้าอย่างของวัดท่าขนุนก็คือ หนังสือรับรองการบรรพชาอุปสมบทนั่นเอง เพียงแต่ว่าใช้กับพระที่ท่านมีกิจธุระจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเดินทางโดยที่ยังไม่มีหนังสือสุทธิ เพราะว่าหนังสือสุทธิของวัดท่าขนุน จะออกให้ต่อเมื่อท่านจำพรรษาอยู่อย่างน้อย ๑ พรรษาแล้ว
คราวนี้หลวงพี่น้ำฝนท่านถามว่า ประการแรกเลย จะลงโทษบุคคลนี้อย่างไร ? เพราะว่าโดยปกติแล้วการลงโทษผู้ที่ละเมิดความผิดลักษณะนี้ พระวินยาธิการหรือว่าตำรวจพระลงโทษเองโดยตรงไม่ได้ เนื่องจากว่าไม่ใช่ "ปาปมุตบุคคล" แบบหลวงปู่ชุ้น ถ้าเป็นหลวงปู่พระธรรมเสนานี (ชุณณห์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ท่านมีแค่ ๒ มาตรา ก็คือมาตรา ๕ บนกับ ๕ ล่างเท่านั้น..! ซึ่งคนอื่นใช้แบบนั้นไม่ได้
ประการที่สองก็คือหนังสือฉายาบัตรนั้น ถือว่าเป็นเอกสารในการยืนยันตัวตนว่าเป็นพระภิกษุที่แท้จริงได้หรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2024 เมื่อ 02:58
|