เนื่องเพราะว่า..ถ้าสมาธิจิตของเราทรงตัว สิ่งกระทบภายนอกต่าง ๆ ก็จะเกิดผลแก่เราน้อยมาก หรือว่าไม่เกิดผลไปเลย ดังนั้น..โบราณที่ท่านรู้จริงในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงกําหนดวันพระ หรือที่เรียกเป็นภาษาบาลีว่า "วันธรรมสวนะ" คือ วันฟังธรรม ขึ้นมา เพื่อประโยชน์ต่อเราท่านทั้งหลายที่รู้ความจริงเรื่องนี้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ถ้าท่านทั้งหลายยึดถือและปฏิบัติตาม ๆ กันไป ผลดีก็ย่อมเกิดต่อท่านทั้งหลายไปโดยอัตโนมัตินั่นเอง
ส่วนวันสําคัญทางพระพุทธศาสนานั้น แต่เดิมไม่ได้กําหนดเอาไว้ มาเริ่มในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ของเรานี่เอง เนื่องจากว่าพระองค์ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ถึง ๒๗ พรรษา มีเข้าใจในเรื่องของพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง เมื่อค้นคว้าไปแล้วจึงได้กําหนดว่า วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ นั้นเป็นวันสําคัญมากวันหนึ่ง ก็คือเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ คืออุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้นําคำสอนไปเผยแพร่ในแนวเดียวกัน
ส่วนวันที่พระองค์ท่านประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ก็คือวันวิสาขบูชานั้น ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ตลอดจนกระทั่งวันที่ทรงแสดงปฐมเทศนา จนกระทั่งเกิดพระสงฆ์รูปแรกขึ้นในโลก ก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘
เมื่อพระองค์ท่านได้กําหนดวันสําคัญทั้งหลายนี้ขึ้นมาแล้ว ก็ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ก็คือให้มีการถือศีลปฏิบัติธรรม นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงสีลสุตาธิคุณอันงดงาม เข้าไปแสดงพระธรรมเทศนาถวายในทุกวันพระใหญ่ เป็นต้น แล้วก็ได้รับความนิยมในการปฏิบัติสืบ ๆ กันมา จนกระทั่งมาถึงรุ่นหลัง ๆ อย่างเราท่านทั้งหลาย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 28-02-2024 เมื่อ 08:34
|