กระผม/อาตมภาพจึงจัดให้เดินธุดงค์จากวัดท่าขนุนไปวัดวังปะโท่ จากวัดวังปะโท่ไปวัดนพเก้าทายิการาม จากวัดนพเก้าทายิการามเข้าไปยังสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง แล้วหลังจากนั้นก็เดินธุดงค์ย้อนรอยถอยหลังกลับมา ทำการปิดโครงการที่วัดท่าขนุน
โดยได้รับความเมตตาจากทางท่านพระครูสุตกาญจนวัฒน์. ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ เป็นกำลังใหญ่ในการถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในช่วงที่อยู่ที่วัดวังปะโท่
ได้รับความเมตตาจากพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในขณะอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง
พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และพระครูกิตติกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพลในช่วงอยู่ที่วัดนพเก้าทายิการาม
พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ จะถวายน้ำปานะทั้งขาไปและขากลับ ช่วงผ่านวัดเขื่อนวชิราลงกรณ จึงทำให้กระผม/อาตมภาพนั้น เบาในเรื่องภาระไปเป็นอันมาก รับผิดชอบภาระเฉพาะช่วงที่ท่านมาพักอยู่ที่วัดท่าขนุน ในช่วงวันที่ ๕ และขากลับในวันที่ ๑๑ เท่านั้น
ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า แม้แต่คณะสงฆ์ของเรา ก็ยังมีการสร้างกองบุญการกุศลเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุข
แม้แต่หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราช (ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ก็ได้กล่าวเอาไว้เป็นอมตวาจาว่า "ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ตราบนั้นเรายังจำเป็นต้องสร้างบุญกุศลให้มากเข้าไว้ เนื่องเพราะว่าบุญกุศลนั้น จะส่งผลแต่ในด้านดีอย่างเดียวต่อชีวิตของเราในทุกชาติทุกภพ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:06
|