ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 18-02-2024, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,063 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าผ้าไม่ได้เปลี่ยน เพียงแต่ว่าเพิ่มความประณีตขึ้น อย่างเช่นว่าให้สาวสรรกำนัลในปักผ้าเสียก่อน แล้วค่อยพระราชทานให้ ที่เรียกว่า "ผ้าสมปัก" แล้วบางท่านด้วยความเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ใช้ผ้านั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง มีการแต่งกลอนล้อเลียนว่า "ไม่ขอเป็นผ้าสมปักพระนายไวย" คำว่า พระนายไวย ก็คือตำแหน่งจมื่นไวยวรนาถ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญเทียบเท่าระดับคุณพระ ถ้าถัดขึ้นไปจากนั้นก็จะเป็นพระยา เป็นเจ้าพระยา แล้วก็เป็นสมเด็จเจ้าพระยา เป็นต้น

ภายหลังพอมีเครื่องจักรเข้ามาทอผ้าแทน ความขี้เกียจก็มาเยือน คนที่ทอผ้าด้วยมือก็น้อยลงไปทุกที ก็เหลือแต่ชนเผ่าต่าง ๆ ที่ยังห่างไกลความเจริญ ก็ยังคงทอผ้าใช้เองกันมา แล้วก็บุคคลที่เห็นความสำคัญในการทอผ้า สืบสานวัฒนธรรมประเพณีโบราณ ก็เพียรพยายามที่จะอบรมสั่งสอนแก่ผู้ที่มาสืบทอดวิชาของตน แต่ว่าผ้าโบราณก็จะเป็นผ้าที่มีราคาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ

ถ้าหลายท่านศึกษาเรื่องผ้าโบราณแล้วจะตกใจ บางผืนราคาหลายแสน บางผืนราคาหลายล้าน ยิ่งเก่าแก่มาก วิธีการทอเป็นผืนผ้าขึ้นมายิ่งยากลำบาก ยิ่งมีการยกดอกยกลาย มีการสอดประสาน แม้กระทั่งระหว่างเส้นด้ายกับโลหะ ก็ยิ่งราคาแพงหนักเข้าไปอีก

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องปกติ ก็คือ
มีเกิดขึ้น แล้วก็เสื่อมไปเป็นธรรมดา แต่ว่าถ้าหากว่าเราเห็นคุณค่า แล้วมีรุ่นหลัง ๆ สืบทอดไว้ได้ ก็จะเป็นสิ่งที่แสดงออกซึ่งตัวตนอย่างชัดเจน แล้วก็จะกลายเป็นสิ่งที่คนอื่นใฝ่หา กลายเป็น Soft Power อย่างที่รัฐบาลต้องการ

อย่างปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่าเพื่อนบ้านของเรา มีการ "เคลม" ชุดไทยว่าเป็นชุดประจำชาติของเขา จนกระทั่งทางรัฐบาลไทยต้องยื่นจดลิขสิทธิ์ชุดไทยพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงร่วมคิดค้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นไทยเรือนต้น ไทยจักรี ไทยบรมพิมาน ไทยจิตรลดา เป็นต้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเราสามารถรักษาไว้ได้ ก็จะ "ขายได้" คำว่า "ขายได้" ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าขายเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ แต่ว่าขายได้ในฐานะวัฒนธรรมประจำชาติที่น่าสนใจ น่าสัมผัส

ระยะนี้ถ้าท่านทั้งหลายไปกรุงเทพฯ เข้าไปตามวัดใหญ่ ๆ อย่างวัดอรุณราชวราราม หรือว่าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) จะเห็นว่านักท่องเที่ยวเช่าชุดไทยมาแต่ง แล้วถ่ายรูปกันครึกครื้นมาก นั่นก็คือ Soft Power เป็นพลังที่สร้างเงินทองให้กับเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างดี

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้สำคัญตรงที่ว่า เราต้องมีความจริงจังและจริงใจ ซึ่งภาษาพระของเราก็คือต้องมีสัจจบารมี มีความอดกลั้นอดทน ก็คือ ขันติบารมี มีความพากเพียรไม่ท้อถอย คือ วิริยบารมี ถึงจะยืนหยัดทำงานเกี่ยวกับด้านวัฒนธรรมนี้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2024 เมื่อ 13:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา