เทศน์อย่างนี้ก็เป็น ?
มีเรื่องขบขันระหว่างท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ กับองค์หลวงตาเกี่ยวกับการเทศน์กล่าว คือหากมีเหตุให้ท่านไปแสดงธรรมที่วัดโพธิสมภรณ์คราวใด พอขึ้นธรรมมาสน์แล้ว ก่อนการแสดงธรรมท่านเจ้าคุณมักจะเดินไปบริเวณรอบ ๆ และประกาศว่า
"ใครอย่าพูดนะ เราจะฟังเทศน์มหาบัวนะ เราจะฟังเทศน์มหาบัวนะ ใครอย่าพูดเป็นอันขาดนะ"
ในบริเวณนั้นจึงเงียบหมด จากนั้นท่านเจ้าคุณก็กลับมาประจำที่และตั้งใจฟังเทศน์แบบกรรมฐาน คือ หลับตาฟังด้วยความเคารพในธรรม โดยไม่ถือตัวว่าเป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านมาก่อนแต่อย่างใดเลย มิหนำซ้ำถ้าอยู่กันสองต่อสอง ท่านเจ้าคุณจะซักถามแหลก บางครั้งก็นั่งมองดูหน้ากันเฉย ๆ ดูหน้า จ้อง แล้วก็ว่า
"ข้อยพูดตามจริงนะบัว เราฟังเทศน์มาทั่วประเทศไทย ฟังมาแล้วไม่มีใครเทศน์เหมือนเธอ เธอเทศน์ใส่ตรงไหนขาดสะบั้น..ขาดสะบั้น แหม..! มันถึงใจข้อยเหลือเกิน ว่าไม่อึ๊ไม่อ๊ะ..ไหลไปเลย
ถ้าหากไม่มีปัญหาเรื่องเทศน์ ข้อยยกให้เจ้านะบัว แต่ถ้ามีปัญหาแล้ว การตอบปัญหาเจ้าเป็นที่หนึ่ง มันถึงใจข้อยเหลือเกินนะบัว..ตอบปัญหารรวดเร็วที่สุด..ปั๊บเลย ใส่ปั๊บ ๆ เลย แหม..! เรานี้อยากถามทั้งวัน แต่ไม่มีปัญหาจะมาถาม"
บางครั้งท่านเจ้าคุณยังถามอีกด้วยว่า "บัว ๆ เวลามีคนมาถามปัญหาเธอน่ะ เธอได้คิดไว้ไหม ?" และมีอยู่ครั้งหนึ่งในขณะที่อยู่กันสองต่อสองกับท่านเจ้าคุณ คราวนั้นท่านเจ้าคุณมองดูหน้าท่านด้วยแววตาที่ใสแจ๋วแล้วกล่าวว่า
"บางทีนะบัว ข้อยพูดตามความจริงนะบัว เจ้าเทศน์นี้ข้อยว่าหาตัวจับยากนะบัว ต่อไปนี้เจ้าจะเป็นเจ้าคุณอุบาลีน้อยนะบัว เจ้าเทศน์ แหม..! มันถึงใจข้อยเหลือเกิน"
ทราบกันว่าท่านเจ้าคุณเคยฟังเทศน์ของท่านแต่แบบกรรมฐานเท่านั้น ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าท่านจะเทศน์ธรรมะแบบขบขันได้ด้วย เช่นในคราวที่พระอุปัชฌาย์เอาตัวท่านไปเทศน์ที่จังหวัดนครพนม ทำให้ท่านต้องได้เทศน์หลายแบบตามลักษณะผู้ฟัง ดังนี้
"..ขึ้นเบื้องต้นด้วยขึ้นนครพนมก่อน อันนี้เทศน์ไปธรรมดาเรื่อย ๆ เขามาฟังก็มีเมียผู้ใหญ่ เมียอธิบดีศาลมาฟังเทศน์เรา พอเทศน์จบลงแล้ว ปุ๊บปั๊บคลานเข้ามาหาคุณวรรณดี ที่เป็นนายกพุทธสมาคม นิมนต์เราไปเทศน์งานฉลองตั้งรากตั้งฐานพุทธสมาคมที่นครพนม พอค่ำคนมามาก
พอเจ้าคุณไปคนก็มามาก เขานิมนต์เราขึ้นเทศน์ ก็ท่านเจ้าคุณนั่นแหละให้เทศน์ ไปไหนมีแต่ท่านแหละให้เราเทศน์ ท่านไม่เทศน์ ถ้าเราไปท่านไม่เทศน์เลย มีแต่เรานั่นแหละเทศน์ เขามานิมนต์เทศน์ พอเทศน์จบลงแล้ว ยังไม่ลืมนะ เทศน์ชั่วโมงกับหนึ่งนาที เทศน์นี้ไหลไปเลย ไม่เหมือนธาตุขันธ์ทุกวันนี้
พอเทศน์จบลงแล้ว คุณนายอธิบดีศาลคลานเข้ามาหานายกสมาคม มากระซิบถาม "เอ๊ะ ท่านองค์นี้มาจากไหน ๆ เทศน์ทำไมแปลกเหลือเกิน ฟังแล้วทำไมมันเพลิน ๆ ตลอด เราฟังเทศน์มหาเปรียญ ๘ ประโยค ๙ ประโยค เคยฟังมาก็ธรรมดา ๆ แต่อาจารย์องค์นี้มาจากไหน ทำไมเทศน์ถึงแปลกเอาเหลือเกิน จบแล้วก็ยังไม่อยากให้จบ นี่ท่านจบเสียก่อน วันพรุ่งนี้จะมานิมนต์ท่านเทศน์อีก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2024 เมื่อ 19:54
|