กระผม/อาตมภาพก็เลยอยากจะนำเสนอว่า "เป็นไปได้ไหมครับ ที่พระอัญญาโกณฑัญญะท่านบรรลุพระอรหันต์เลย ?" เพราะว่าการแปลบาลีนี่ ยุคเราแปลครับ เรามาแยกว่าธัมมจักขุ ดวงตาเห็นธรรม ก็คือพระโสดาบัน ธัมมาภิสมัย คือพระอรหันต์ ผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมนี่เขาเห็นทีละระดับนะครับ ตนเองเข้าถึงระดับไหนก็เรียกว่าเห็นในระดับนั้น เห็นในระดับปุถุชน เห็นในระดับกัลยาณชน เห็นในระดับอริยชนเบื้องต้น เห็นในระดับอริยชนเบื้องกลาง และเห็นในระดับสูงสุดคือพระอรหันต์ เรียกว่าธัมมจักขุ ดวงตาเห็นธรรมได้ทั้งนั้น ฝากไว้ให้ทุกท่านฟุ้งซ่านหน่อยนะครับ
เพราะกระผม/อาตมภาพอยากจะเชื่อว่า ในการแปลพระไตรปิฎกของเรามีข้อความที่เฝือ ก็คือผิดเพี้ยนไปจากข้อความเดิม ๆ ของพระไตรปิฎก เพราะว่าอันดับแรกเลย บาลีไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเราครับ ในเมื่อไม่ใช่ เราจะแปลให้ตรงเป๊ะตามเจตนาเจ้าของภาษาย่อมเป็นไปไม่ได้
ยกตัวอย่าง คำว่านั่งบนอาสนะครับ ก่อนหน้านี้คำนี้ไม่มีนะครับ นั่งบนอาสนะ อันเกิดจากพระมหาเปรียญท่านหนึ่งเข้าสอบปากเปล่าครับ กรรมการตอนนั้นก็เป็นเจ้าคุณชั้นธรรมท่านหนึ่ง อีกท่านหนึ่งก็คือพระวชิรญาณภิกขุ ก็คือในหลวงรัชกาลที่ ๔ ที่บวชอยู่ สมัยก่อนเขาแปลบาลีปากเปล่าครับ คุณแปลได้ถึงไหนก็ได้ประโยคนั้น บางคนนี่แปลวันเดียวได้ ๙ ประโยคเลย ไม่ต้องมาสอบปีละชั้นแบบนี้
พอถึงเวลา พระมหารูปนั้นท่านก็แปลครับ "อาสเน นิสินฺโน อันว่านั่งในอาสนะ" เจ้าคุณธรรมฯ ท่านก็พยักหน้าผ่าน แต่พระวชิรญาณภิกขุไม่ให้ผ่านครับ บอกว่า "ถ้านั่งในอาสนะ คุณต้องฉีกผ้าแล้วมุดเข้าไปนั่งข้างใน..!" เดือดร้อนคนแปลสิครับ ต้องแปลใหม่
"อาสเน นิสินฺโน อันว่านั่งเหนืออาสนะ" พระวชิรญาณภิกขุพยักหน้าให้ผ่าน เจ้าคุณธรรมกิตติบอกว่า "ไม่ได้..นั่งเหนืออาสนะ ตูดต้องลอยพ้นพื้น..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2024 เมื่อ 02:43
|