ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-01-2024, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,737
ได้ให้อนุโมทนา: 152,130
ได้รับอนุโมทนา 4,419,871 ครั้ง ใน 34,327 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ อีกสักครู่กระผม/อาตมภาพต้องไปร่วมประชุมโครงการธุดงค์ธรรมยาตรา ของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเขาประชุมกันไปประมาณ ๒๐ นาทีแล้ว

สำหรับวันนี้
กระผม/อาตมภาพได้ไปเยี่ยมการปฏิบัติธรรมของพระนิสิตประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ วิทยาสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่วัดปรังกาสี แล้วได้บรรยายธรรมให้บรรดานิสิตฟังไป ๑ ชั่วโมง

เพียงแต่ว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาด ก็คือเรื่องอายุโดยประมาณของพระอัญญาโกณฑัญญเถระ เนื่องเพราะว่าในปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ซึ่งอุปัฏฐากรับใช้สิทธัตถราชกุมารที่ออกมหาภิเนษกรมณ์นั้น ใน ๑๐๘ พราหมณ์ที่เข้าทำนายลักษณะของสิทธัตถราชกุมารมีแค่เพียงหนึ่งเดียว ก็คือโกณฑัญญพราหมณ์ เนื่องเพราะว่าท่านเป็นคนเก่งระดับอัจฉริยะ เรียนจบไตรเพทตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ขณะที่พราหมณ์ท่านอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็อาวุโสแก่เฒ่ากันแล้วทั้งนั้น

ดังนั้น..เมื่อถึงเวลาที่สิทธัตถราชกุมารออกบวช โกณฑัญญพราหมณ์จึงชวนได้เฉพาะลูกหลานของพราหมณ์ ๑๐๘ ที่เชื่อมั่นว่าสิทธัตถราชกุมาร ถ้าออกบวชจะเป็นศาสดาเอกของโลก ติดตามไปถวายการรับใช้

จนกระทั่งท้ายสุด เมื่อผ่านการทรมานตนมา ๖ ปี องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงคิดได้ว่า การทรมานตนก็ดี การคลุกคลีอยู่กับกามก็ตาม เป็นส่วนสุดทั้งสองด้าน ก็คือ สบายเกินไปกับลำบากเกินไป โอกาสที่จะเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นแต่มัชฌิมาปฏิปทา คือความพอเหมาะพอดีเท่านั้น จึงหันมาเสวยพระกระยาหารใหม่ ทำให้บรรดาปัญจวัคคีย์ ซึ่งเชื่อมั่นในแนวทางการทรมานตน ว่าจะทำให้บรรลุโมกษะ คือความหลุดพ้นได้ หมดความศรัทธา จึงหนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี

จนกระทั่งสมด็จพระมหามุนีของเรา บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตั้งใจที่จะเทศนาสั่งสอน เพื่อให้มีบุคคลที่ช่วยเป็นพยานในการบรรลุธรรมของพระองค์ท่าน ครั้นนึกถึงอาฬารดาบส กาลามโคตร ปรากฏว่าสิ้นชีวิตไป ๗ วันแล้ว ส่วนอุทกดาบส รามบุตร สิ้นชีวิตในวันที่พระองค์ท่านรำลึกถึงนั่นเอง แล้วท่านสองท่านไปเกิดเป็นอรูปพรหม ไม่มีอายตนะที่จะติดต่อกับผู้หนึ่งผู้ใดได้ นอกจากอยู่เสวยกุศลกรรมที่ได้สร้างมาจนหมด แล้วก็ต้องเลื่อนลงต่ำไปตามเศษกรรมของตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-01-2024 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา